อาร์ดี มั่นใจธุรกิจเติบโตสูง พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจเปิดร้านเคเอฟซีในไทย

34

 

มิติหุ้น-บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรืออาร์ดี แฟรนไชซ์ผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซีในประเทศไทย รายงานผลการดำเนินธุรกิจ เติบโตสวนกระแสโควิด โชว์ผลงาน 7 เดือนแรกปี 2020 เปิดร้านใหม่ 7 ร้าน รวม 207 ร้านทั่วประเทศ พร้อมเดินหน้าตามแผนธุรกิจ ลงทุนสร้างการเติบโต พัฒนาร้านเสริมประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเคเอฟซีต่อเนื่อง

แอนดรูว์ นอร์ตัน ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท เรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด หรืออาร์ดี ผู้ได้รับสิทธิ์การบริหารร้านเคเอฟซีในประเทศไทย เปิดเผยว่า “อาร์ดี กำลังจะครบรอบ 4 ปีในฐานะพันธมิตรแฟรนไชส์ของเคเอฟซีเร็วๆนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราถือเป็นแฟรนไชส์เคเอฟซีที่เติบโตเร็วที่สุด ใน 3 ปีเต็มของการบริหารร้านเคเอฟซี อาร์ดีสามารถสร้างการเติบโตของยอดขายได้ถึง 24% เทียบกับยอดขายเมื่อ 3 ปีก่อน สำหรับในปีนี้ ถึงแม้จะมีผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19 เราเชื่อว่ายอดขายของเราจะยังคงเติบโตต่อไป

การเติบโตต่อเนื่องที่ผ่านมา เป็นผลสำเร็จจากการลงทุนของเรารวมถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์เคเอฟซี ภายในปีนี้ เราจะเพิ่มการลงทุนอีก 2 พันล้านบาท เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนสาขาภายใต้การบริหารของเรา รวมถึงการปรับปรุงร้านที่มีอยู่แล้วให้ใหม่ทันสมัย สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ ใน 3 ปีที่ผ่านมา อาร์ดีเปิดร้านใหม่รวม 85 ร้าน และจะเปิดอีก 100 ร้านภายในต้นปีหน้า รวมปัจจุบัน อาร์ดีมีร้านเคเอฟซีภายใต้การบริการ รวม 207 ร้าน (เดือนก.ค. 2563) โดยร้านล่าสุดคือสาขาที่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์งานวงศ์วาน ซึ่งเป็นร้านรูปแบบใหม่ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าในร้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบการสั่งอาหารออมนิแชแนล (Omni channel) ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งอาหารได้ทั้งจากช่องทางออนไลน์ผ่านแอพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือลูกค้า หรือจากเครื่องอัตโนมัติที่ร้าน และสามารถรอรับอาหารได้เลย โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว นอกจากนั้นการตกแต่งร้านแบบใหม่ยังเน้นความโมเดิร์นทันสมัย มีหน้าต่างกระจกใสในส่วนครัวเคเอฟซี เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเห็นถึงขั้นตอนการจัดเตรียมและปรุงไก่ทอดทุกชิ้นในร้านด้วยมืออย่างพิถีพิถันตามสูตรของผู้พันแซนเดอร์ที่สืบทอดมาเกือบ 80 ปี

การเติบโตอย่างรวดเร็วของอาร์ดี ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 1,700 ตำแหน่งในประเทศไทย ทั้งตำแหน่งงานในร้านเคเอฟซีและตำแหน่งงานในสำนักงานบริหาร อีกทั้งยังมีการส่งเสริมให้เกิดการเติบโตในหน้าที่การงานรวมถึงการเลื่อนตำแหน่งให้กับทีมงานบริหารร้านและทีมงานบริหารธุรกิจอีกกว่า 11,500 ครั้ง

“การดำเนินธุรกิจ 3 ปีที่ผ่านมาในฐานะพันธมิตรแฟรนไชส์ของเคเอฟซี ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจมากทั้งในแง่ของการสร้างยอดขาย ผลกำไร ทีมงานที่แข็งแกร่ง และการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้ความพึงพอใจแก่ลูกค้า เพื่อเดินหน้าต่อไปตามแผนสร้างการเติบโตของธุรกิจในสภาวะการแข่งขันที่สูง ปัจจุบัน สถานะบริษัทของเรามีความแข็งแกร่งมาก และพร้อมที่จะสร้างการเติบโตต่อไปด้วยสถานะทางการเงินในปัจจุบัน” แอนดรู กล่าวทิ้งท้าย      

ข้อมูล ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ประเทศไทยมีร้านเคเอฟซีจำนวน 826 สาขา โดยในจำนวนทั้งหมดจะมีเป็นร้านแบบไดรฟ์ทรู 104 สาขา ดำเนินงานโดย เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) 283 แห่ง คิวเอสอาร์ออฟเอเชีย (QSA) 336 แห่ง และเรสเทอรองตส์ ดีเวลลอปเม้นต์ (RD) 207 แห่ง

www.mitihoon.com