ความเสียหายทั้งทางด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจและการจ้างงาน จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐฯ ที่ยังไม่มีสัญญาณคลี่คลายในทางที่ดีขึ้น นำมาซึ่งการคาดการณ์ว่า นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะดำเนินต่อไปอีกหลายปี เหตุการณ์นี้ต่อเนื่องไปถึงมรสุมทางการเมืองอันหนักหน่วงของ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งสูญเสียความนิยมจากการบริหารจัดการโรคระบาด นอกจากนี้ยังมีข่าวเชิงบวกของกลุ่ม ยูโรโซนหลังผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) 27 ประเทศบรรลุดีลเรื่องกองทุนฟื้นฟูขนาด 7.5 แสนล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกร่วมกันดูแลภาระหนี้ในช่วงวิกฤตไวรัสโคโรนาและนับเป็นพัฒนาการที่มีความสำคัญในแง่เอกภาพทางด้านการคลังของยูโรโซนในระยะยาวแล้ว หลากหลายปัจจัยรุมเร้าค่าเงินดอลลาร์ที่กล่าวข้างต้นส่งผลให้ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ซึ่งเทียบกับตะกร้าเงินสำคัญ 6 สกุล อ่อนค่าลงมากถึง 4.2% จากเดือนก่อนหน้า นับเป็นอัตราการดิ่งลงรายเดือนเร็วที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี (กราฟด้านล่าง)
ทั้งนี้ แรงขายดอลลาร์เร่งตัวชัดเจนหลังผู้นำของสหรัฐฯ เสนอแนวคิดเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 3 พฤศจิกายน 2563
ทรัมป์ส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมว่าอาจจะมีการโกงการเลือกตั้งทางไปรษณีย์ และควรจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจนกว่าคนอเมริกันจะสามารถใช้สิทธิ์ลงคะแนนได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย ปฏิกิริยาของนักลงทุนในตลาดสะท้อนความสับสน โดยก่อนหน้านั้นเพียง 15 นาที สหรัฐฯ เพิ่งประกาศข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ซึ่งย่ำแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ในทางกฎหมาย ประธานาธิบดีไม่มีอำนาจเลื่อนวันเลือกตั้ง โดยรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ บัญญัติไว้ว่าการเลื่อนการเลือกตั้งต้องได้รับความเป็นชอบจากสภาคองเกรส ขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสคัดค้านแนวคิดของทรัมป์ในทันที อนึ่ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ถูกกำหนดไว้เป็นวันอังคารแรกหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน ตั้งแต่ปี 2388 แม้ในภาวะสงครามและเศรษฐกิจตกต่ำก็ไม่ปรากฎว่ามีการเลื่อนวันเลือกตั้งแต่อย่างใด
เกมกลยุทธ์ล่าสุดของทรัมป์กรณีโยนหินถามทางเรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้งให้ล่าช้าออกไป ที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นความพยายามที่จะทำลายความชอบธรรมของผลการเลือกตั้ง ส่งผลให้นักลงทุนประเมินค่าความเสี่ยงทางการเมือง (Political Risk Premium) เพิ่มสูงขึ้นสำหรับเงินดอลลาร์ในครั้งนี้มากกว่าในโหมดเลือกตั้งปกติ นอกจากนี้ ตลาดกำลังจับตาการหารือของสภาคองเกรสเกี่ยวกับมาตรการด้านการคลังชุดใหม่ ขณะที่อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของพันธบัตรสหรัฐฯ ยังคงดิ่งลงต่อเนื่อง เรามองว่าเงินดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลงบนสมมติฐานที่ว่า โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตจะคว้าชัยในศึกชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และตลาดการเงินจะผันผวนสูงขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งสหรัฐฯ
Source: Reuters
โดย คุณรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ
ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
www.mitihoon.com
