DOD โชว์งบกำไร Q2/63 โต 354% สวนกระแสโควิด-19 ชี้ออเดอร์ไลน์ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพุ่ง เล็งผุดซอฟท์เจล – โพรไบโอติกส์ ครึ่งปีหลัง

546

 

มิติหุ้น – บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) โชว์งบไตรมาส 2/63 กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% YoY และเพิ่มขึ้น  329% QoQ ขณะที่รายได้จากการขายอยู่ที่ 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 212% YoY และเพิ่มขึ้น  238% QoQ ขานรับออเดอร์พุ่งอานิสงส์โควิด-19 ระบาด  ด้าน CEO “ธนิน ศรีเศรษฐี” ตอกย้ำความแข็งแกร่งผู้นำการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบบครบวงจร เร่งผุดไลน์การผลิตโปรดักส์ใหม่ “ซอฟท์เจล”และ”โพรไบโอติกส์” ตอบโจทย์ดีมานด์ทะลักเทรนด์รักสุขภาพช่วงครึ่งปีหลัง 

 นายธนิน ศรีเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ  DOD  เปิดเผยถึง ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 นั้น บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 238 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่  76 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 354 และร้อยละ 329 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรก 2563 ของบริษัทฯมีรายได้จากการขาย 772  ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 212 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯมีรายได้จากการขาย อยู่ที่   247 ล้านบาท และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่  103 ล้านบาท และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 77 และร้อยละ 75 ตามลำดับ เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ บริษัทฯสามารถเติบโตสวนกระแสกับภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19  ทั้งยอดขาย กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ โดยบริษัทฯมีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ เพิ่มขึ้น 329% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) และมีรายได้จากการขาย 430 ล้านบาท เติบโต 212% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และ  เพิ่มขึ้น 238% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) การเติบโตเป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เพิ่มอย่างเห็นได้ชัดเพราะมาตรฐานในการผลิตและคุณภาพของสินค้าที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี”

นายธนิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 เติบโตโดดเด่น เนื่องจากธุรกิจผลิตอาหารเสริมเพื่อสุขภาพส่งสัญญาณการเติบโตชัดเจนหลังจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกเป็นจำนวนมาก เป็นตัวเเปรกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งธุรกิจผลิตสำอางยังได้รับประโยชน์จากความต้องการสินค้ากลุ่มสุขอนามัยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สำหรับธุรกิจเครือข่ายก็มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นส่งผลให้ขาดทุนลดลงเทียบกับช่วงไตรมาสที่ 1/2562 ที่ผ่านมา”

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯมีความเชื่อมั่นว่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันกลุ่มลูกค้ารายใหญ่หลายรายที่มีศักยภาพมีออเดอร์ในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดไลน์การผลิตในส่วนของผลิตภัณฑ์เม็ดแคปซูลเม็ดตอก และผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มแบบบรรจุกระป๋องได้ใช้อัตราการผลิตเกือบเต็มกำลังการผลิตแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันบริษัทฯได้เดินหน้าขยายไลน์การผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ในรูปแบบซอฟท์เจล และผลิตภัณฑ์ประเภทโพรไบโอติกส์ (Probiotics) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนและสามารถเดินหน้าการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/2563 เป็นส่วนช่วยผลักดันรายได้รวมและอัตรากำไรขั้นต้นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับธุรกิจเครื่องสำอางอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างภายในให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นให้พร้อมจะรับกับคำสั่งซื้อที่จะฟื้นตัวกลับมาในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนธุรกิจเครือข่าย เริ่มส่งสัญญาณกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยดีขึ้นเป็นลำดับ

 นายธนิน กล่าวตอกย้ำถึงกลยุทธ์ปรับโครงสร้างองค์กรรูปแบบ Synergy กันภายใต้แนวทาง 1+1=3 ว่าธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้ดูแลของ DOD และบริษัท พีซีซีเอ แล็บบอราเทอรี่ จำกัด (PCCA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ประกอบธุรกิจความงามและเครื่องสำอางได้ประสานเป็นหนึ่งเดียวกันเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าทั้ง 2 กลุ่ม ทั้งผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพและกลุ่มความงามจะส่งผลให้ขยายฐานลูกค้าใหม่ให้กว้างมากขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในธุรกิจให้มีความความหลากหลายและครบวงจรโดยจะทำให้บริษัทฯมีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

www.mitihoon.com