มิติหุ้น – JMT เผยผลงาน All Time High อีกครั้ง สะท้อนภาพรวมธุรกิจบริหารหนี้ยังแข็งแรง แม้ในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มองเป็นโอกาสซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มเติมด้วยมูลค่าลงทุนที่เหมาะสม ควบคู่การบริหารจัดการภายในและการจัดเก็บอย่างดีเยี่ยม โดยมีกำไรสุทธิในงวด Q2/63 อยู่ที่ 227 ล้านบาท พุ่งแรง 53% รายได้รวม 762 ล้านบาท โต 29% ส่วนครึ่งปีแรก กำไรอยู่ที่ 434 ล้านบาท โต 48% รายได้รวม 1,527 ล้านบาท โต 33% ใช้งบลงทุนซื้อหนี้ไปแล้ว 1,983 ล้านบาท จากเป้าหมายจะใช้เงิน 4,500 ล้านบาท หนุนปัจจุบันพอร์ตหนี้โตอยู่ที่189,156 ล้านบาท ส่วนยอดจัดเก็บทำได้ดี มีกองหนี้ที่ Fully Amortized เพิ่ม ตัดมูลค่าเงินลงทุนหมด หนุนกำไรโตเด่นในช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ ตลาดซื้อหนี้เปิดโอกาสให้เข้าประมูลหนี้ได้อีกมาก หนุนผลประกอบการปี 63 JMT ยืนหนึ่งในธุรกิจบริหารหนี้ที่แข็งแกร่ง ด้านบอร์ดใจดี จ่ายปันผลระหว่างกาลสะท้อนความเชื่อมั่น 0.45 บาท/หุ้น
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทำสถิติกำไรไตรมาสสูงที่สุดของบริษัทอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง สะท้อนความสามารถในการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ และเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งในทุกสภาวะเศรษฐกิจ JMT รับโอกาสเติบโตได้อย่างสง่างาม โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 227 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 78 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 52 จากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 66 และอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 30
“ในช่วงไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ เดินหน้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ในระบบยังมีอยู่จำนวนมาก แม้ในท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ มียอดจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) ในช่วงครึ่งปีแรก เท่ากับ 1,699 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 20 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ มีกองหนี้ที่ Fully Amortized เพิ่ม ตัดมูลค่าเงินลงทุนหมด ทำให้สามารถรับรู้รายได้เข้ามาเต็มๆ ต่อเนื่องในครึ่งปีหลังนี้ หนุนการรับรู้กำไรอย่างมั่นคง” นายสุทธิรักษ์ กล่าว
ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีพอร์ตหนี้ด้อยคุณภาพรวมประมาณ 189,156 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาส 1/2563 อยู่ที่ 180,300 ล้านบาท สะท้อนความสามารถในการซื้อหนี้เข้ามาบริหารได้เพิ่มขึ้น และใช้เงินในการซื้อหนี้แล้วประมาณ 1,983 ล้านบาท จากงบลงทุนซื้อหนี้ปีนี้ที่วางไว้ 4,500 ล้านบาท มองโอกาสซื้อหนี้ในช่วงครึ่งปีหลังยังมีอีกมาก จากสถาบันการเงินจะเร่งทยอยขายหนี้ด้อยคุณภาพออกมาเพื่อปรับพอร์ต NPL และภาพรวมเศรษฐกิจสนับสนุนให้ปีนี้เป็นโอกาสที่ดีในการซื้อหนี้เข้ามาบริหาร ด้วยต้นทุนที่ดี และตอกย้ำ JMT เป็นผู้นำในธุรกิจหนี้ด้อยคุณภาพภาคเอกชนรายใหญ่ของประเทศ
www.mitihoon.com