ICHI เซอร์ไพรส์สวนตลาด เผย Q2/63 กำไรโต 9.2% เล็งออกสินค้าใหม่บุกตลาดเพื่อสุขภาพ ดันครึ่งปีหลังสวย

201

มิติหุ้น-ICHI ประกาศผลงาน Q2/63 สวยเด้ง แม้ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 สามารถฝ่าวิกฤติ อวดกำไรโต 9.2% อยู่ที่ 149.3 ล้านบาท รายได้อยู่ที่ 1,370 ล้านบาท จากความสามารถในการบริหารต้นทุนที่ดี ส่วนตลาดอินโดฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรต่อเนื่อง หนุนงบครึ่งปีแรกโกยกำไรแล้ว 308.5 ล้านบาท โต 22.9% รายได้ 2,655 ล้านบาท มองครึ่งปีหลังสวยกว่า จับพอร์ตสินค้าเพื่อสุขภาพที่กำลังร้อนแรง เตรียมส่งสินค้าใหม่บุกตลาด Q3 ปีนี้ หนุนทั้งปีกำไรสวย ส่วนเป้ารายได้วางไว้โต 5% ล่าสุด

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 2/2563 กำไรสุทธิอยู่ที่ 149.3 ล้านบาท เติบโต 9.2 % รายได้จากการขายอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท ลดลง (16.7)% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 21.5% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 10.9%
กำไรที่เติบโตขึ้นอย่างน่าประทับใจในครั้งนี้ โดยส่วนใหญ่มาจากภาพรวมยอดขายในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 77% ของยอดขายทั้งหมด ประกอบกับการบริหารจัดการภายในที่ดีมากของบริษัทฯ อิชิตันสามารถควบคุมต้นทุนการผลิต และการทำตลาดตรงกลุ่มเป้าหมายสินค้าแต่ละประเภททำให้อิชิตันมีกำไรที่เติบโตได้ แม้อยู่ในท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศที่ติดลบ

ด้านบริษัทร่วม อิชิตัน อินโดนีเซีย ประสบความสำเร็จ พลิกทำกำไรได้ต่อเนื่องในปีนี้ จากผลิตภัณฑ์ที่ออกวางจำหน่ายได้รับการตอบรับ และการกระจายสินค้าได้มีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ในไตรมาส 2/2563 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาที่ 1.4 ล้านบาท
สำหรับ ผลประกอบการงวดครึ่งปีแรก 2563 อิชิตันมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 308.5 ล้านบาท เติบโต 22.9 % รายได้จากการขายอยู่ที่ 2,655 ล้านบาท ลดลง 10.4% ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 20.6 % อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.6%

ภาพรวมครึ่งปีหลัง 2563 อิชิตันชูสินค้าเพื่อสุขภาพเป็นดาวเด่น สะท้อนความสำเร็จจากชาเขียว ชิซึโอกะที่สามารถครองใจผู้บริโภคได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขยายไลน์สินค้ากลุ่มเครื่องดื่ม “อิชิตันน้ำด่าง PH PLUS 8.5” น้ำดื่มอัลคาไลน์ผสมวิตามิน B รวม ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ และมีโอกาสเติบโตสูง ตั้งเป้าหมายปีนี้โฟกัสสินค้าที่มีความสามารถในการทำกำไร และคาดรายได้จะเติบโต 5% จากปีก่อนอยู่ที่ประมาณ 5,300 ล้านบาท

“เรามองภาพรวมธุรกิจเครื่องดื่มในช่วงครึ่งปีหลังมีโอกาสเติบโตกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น หากไม่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะทำให้ประชาชนมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอย และขานรับมาตรการท่องเที่ยวไทยที่ภาครัฐอัดฉีดงบประมาณออกมาเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัว อย่างไรก็ดี สินค้าของบริษัทฯ อยู่ในกลุ่มสินค้าเพื่อการบริโภค จึงยังคงมีความต้องการในตลาด และการปรับกลยุทธ์บุกตลาดเพื่อสุขภาพ เป็นตลาดที่เรามาถูกทางแล้ว ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมอีกประมาณ 2 รายการ เพื่อสร้างฐานการเติบโตในกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะอิชิตันน้ำด่าง PH PLUS 8.5 เราตั้งเป้ายอดขายภายใน 1 ปีแรกไว้ที่ 1,000 ล้านบาท เชื่อจะสามารถทำได้” นายตัน กล่าวทิ้งท้าย

ณ ไตรมาส 2/2563 (สิ้นเดือนมิถุนายน 2563) ภาพรวมตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่าตลาด 5,639 ล้านบาท ลดลง -12.71% ในเชิงมูลค่า และลดลง -13.02% ในเชิงปริมาณ แบ่งเป็นชาเขียว พรีเมี่ยมสัดส่วน 11.49% ของมูลค่าตลาดชาทั้งหมด โดยชาเขียวพร้อมดื่มชิซึโอกะ มีส่วนแบ่งการตลาดชา พรีเมี่ยมอยู่ที่ 28.09% ย้ำเบอร์หนึ่งตลาดชาพรีเมี่ยมต่อเนื่อง

www.mitihoon.com