AEONTS ได้เวลาฟื้น กูรูเคาะเป้า 160 บ.

364

มิติหุ้น-บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS โดย บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาพื้นฐาน 160 บาท จากรายงานผลประกอบการงวดมี.ค.-พ.ค.63 ถูกกระทบจากโควิด-19 โดยกำไรสุทธิ 1Q64F (มี.ค.-พ.ค.63) เท่ากับ 530 ล้านบาท ลดลง 46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, 50% จากไตรมาสก่อน เนื่องจาก 1) สินเชื่อชะลอตัวในช่วง Lockdown, 2) สเปรดแคบลง เพราะ Yield สินเชื่อลดลง, 3) ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น บริษัทเชื่อว่าจะรักษาระดับ Cost-to-income ratio ไว้ในระดับเดียวกับไตร มาสนี้ได้ในช่วงที่เหลือของงวดปี 64F ของบริษัท

สินเชื่อช่วงมี.ค.-พ.ค.63 โต 3.8%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ -2%จากไตรมาสก่อน โดยพอร์ตเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล 53% (-2%QoQ), สินเชื่อ บัตรเครดิต 40% (-4%QoQ) และสินเชื่อเช่าซื้อ 7% (+11%QoQ)  ด้าน NPL ratio ทรงตัวที่ 3.7% เทียบ QoQ แต่ตั้งสำรองเพิ่ม ทั้งนี้ NPL ratio ทรงตัวเนื่องจากเกณฑ์ผ่อนปรนของ ธปท. แต่บริษัทตั้งสำรองตามคุณภาพลูกหนี้ทำให้ Credit cost เพิ่มเป็น 10.7% ในไตรมาสนี้ (จาก 8.3% ในช่วง ธ.ค.62-ก.พ.63)

ส่วนสินเชื่อราว 10% ของทั้งหมดอยู่ภายใต้มาตรการผ่อนปรนของธปท. (พักชำระหนี้ 3 เดือนเริ่มตั้งแต่มี.ค.63) โดย 77% ของสินเชื่อที่อยู่ในโครงการจ่ายชำระปกติ อย่างไรก็ตามจากการที่ ธปท.ลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 100 ล้าน บาท/เดือน เริ่มกระทบตั้งแต่เดือนส.ค.63 เป็นต้นไป ทั้งนี้ธปท.ลดเพดานอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลจาก 28% เป็น 25% และสินเชื่อบัตรเครดิตจาก 18% เป็น 16% แต่บางส่วนได้รับการชดเชยจากการขยายสินเชื่อให้กับลูกหนี้ดี ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/เดือนจาก 1.5 เท่าเป็น 2.0 เท่าของเงินเดือน

ขณะที่ลูกหนี้เข้าร่วมมาตรการผ่อนปรนเฟส 2 ของธปท.ไม่มาก โดยรอบนี้จะเป็นการให้ยืดหนี้เป็น 48 เดือน ในอัตรา ดอกเบี้ยที่ต่ำลง เช่น อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตลดเป็น 12% และสินเชื่อส่วนบุคคลเป็น 22% ซึ่งถึงปัจจุบันบริษัท กล่าวว่ามีลูกหนี้มาใช้มาตรการเพียง 600 รายเท่านั้น • คาดว่าสินเชื่อ 2Q64F (มิ.ย.-ส.ค.64) จะฟื้นตัว แต่ Yield ลดลง ตามมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ของธปท. ซึ่งในไตรมาส 2/64 จะถูกกระทบ 1 เดือนคือส.ค.63 แล้วมีผลเต็มไตรมาสตั้งแต่ ไตรมาส3/64

อย่างไรก็ตาม บางส่วนได้รับชดเชยจาก การเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้ลูกหนี้ดีที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท/เดือนจาก 1.5 เท่าเป็น 2.0 เท่าของเงินเดือนดังกล่าว ข้างต้น และอุปสงค์สินเชื่อดีขึ้นหลังผ่อนคลาย Lockdown จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายทางพื้นฐาน 160 บาท (อิง P/BV ปี 64F ที่ 1.8 เท่า) ณ ราคาหุ้นปัจจุบันมี P/E ปี 64F 12 เท่าและ P/BV 1.3 เท่า ต่ำกว่าบริษัทชั้นนำในกลุ่มที่มี P/BV 4-6 เท่า

www.mitihoon.com