ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ด้านนายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ MINT เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจมั่นใจว่าช่วงครึ่งหลังจะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกจนส่งผลให้รายได้ปรับตัวลดลงกว่า 70 % และโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการแล้วอาทิ ที่ภูเก็ต สมุย เป็นต้น ส่วนแผนการใช้เงินลงทุนช่วงครึ่งหลังยังไม่มี
อย่างไรก็ตามช่วงครึ่งหลังบริษัทมี หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดราว 3.5 พันล้านบาท นั้นบริษัทมีแผนรองรับไว้แล้วจาก แผนการเพิ่มทุนของบริษัท ส่วนช่วงครึ่งหลังปีนี้มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไปแล้ว 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังไม่มีปัญหาสภาพคล่องเนื่องจากในการเจรจากับสถาบันการเงินเรื่องการขอผ่อนผันการให้กู้โดยไม่อิงสัดสว่นดีอีจนถึงมี.ค.ปี 64 และจากการทีบริษัทเดินตามแผนการระดมทุนทั้งการเพิ่มทุน ออกวอร์แรนต์ และ หุ้นกู้จนมีเงินสดในมือทั้งสิ้นราว 6 หมื่นลบ.
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า MINT ได้กลับมาเปิดโรงแรมในเครื่อแล้วกว่า 76 % เปิดร้านอาหารกว่า 95 % และธุรกิจ Lifestyle เกือบทั้งหมดเมื่อเทียบกับเดือน เม.ย.-พ.ค.63 ที่เปิดบริการได้จำกัด ส่วนฐานะการเงินยังแข็งแกร่งได้เงินสดราว 9.86 พันลบ.จากการเพิ่มทุน RO เมื่อบวกกับเงินสด ณ สิ้นไตรมาส2/63 ที่ 1.95 หมื่นลบ.ในเดือน ก.ค. 63 มากเพียงพอรองรับ COVID-19 ดังนั้นคาด Cashflow จะดีขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส3/63 ตามผลการดำเนนิงานของธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่ดีขึ้น คาดจะสามารถ Break Even Point ลดลง 49-59 % เป็น 34-42 % เช่นเดียวกับธูรกิจอาหารลดจาก 82 % เป็น 69 % ธุรกิจอาหารเกิน Break Even แล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย.63
ดังนั้นจากผลการดำเนินงานที่ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส2/63 และคงประมาณการทั้งปีของ MINT ขาดทุนปกติ 1.6 หมื่นลบ. และจะกลับมามีกำไรปกติในปี 64 ที่ 2 พันลบ.และปี 65 มีกำไรที่ 4.3 พันลบ.จึงประเมินราคาที่เหมาะสมที่ 27.60 บาท/หุ้น อิง EV/EBITDA 10 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหล้ง 5 ปี) จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”
www.mitihoon.com