รู้ทันการลงทุน กับ KGI
ดัชนี SET index ระหว่างสัปดาห์ที่ผ่านมาเลือกที่จะพักฐานลงไปบริเวณ +/- 1,300 จุด จากประเด็นลบต่างๆ อาทิ i) การทยอยปรับลดประมาณการฯ EPS ของ SET index (แม้หุ้นขนาดกลาง – เล็กกำไรดีกว่าคาด แต่หุ้นขนาดใหญ่เช่น ธนาคารพาณิชย์และพลังงาน กลับมีแนวโน้มกำไรแย่กว่าคาด) ii) ปัจจัยลบจากต่างประเทศ เช่น เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯต้องรอต่อไปหลังไม่ผ่านสภาคองเกรส และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่ดูแย่ลง ซึ่ง 2 ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ตลาดหุ้นไทย Sideway มี Upside ที่จำกัด และระหว่างสัปดาห์เกิดประเด็นข่าวเรื่อง ความกังวลการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย (กังวลเกิดคลื่นลูกที่ 2)
อย่างไรก็ดี การพักฐานระหว่างเดือน ส.ค. เป็นสิ่งที่เราคาดการณ์ไว้แล้ว เนื่องจากกำไรของบริษัทจดทะเบียนในภาพรวมจะลดลง ผลักดันให้ Trailing PE ของดัชนี SET index ปรับขึ้นทันทีหลังการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q63 (ล่าสุด Trailing PE อยู่ที่ 21.57 เท่า ทำจุสูงสุดใหม่) และจะมีความเสี่ยงในช่วงของการประชุมนักวิเคราะห์หลังการรายงานผลการดำเนินงาน 2Q63 ที่คาดจะมีการปรับลดประมาณการฯหุ้นกลุ่มหลักๆ ลง และทำให้เกิดความผันผวนขึ้น กรณีดัชนี SET index หลุดต่ำกว่า 1,300 จุด จะพักฐานลงไปบริเวณ 1,270 จุด ซึ่งเป็นโอกาสซื้อสะสมหุ้นอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่ยังรอการเข้าซื้อสำหรับการลงทุนระยะกลาง (6 เดือนขึ้นไป) เนื่องจากหากพิจารณา Valuation ในระยะยาว อาทิ Cyclical adjusted PE (CAPE) ยังอยู่ในระดับที่ไม่สูง และเมื่อพิจารณาอัตราดอกเบี้ยที่ยังต่ำทำให้เกิด New normal ของ PE ratio แล้ว เราประเมินการพักฐานเดือน ส.ค.เป็นโอกาสซื้อสะสมอีกครั้ง
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้ เนื่องจากเรายังคงประเมินว่าด้วยสภาพคล่องที่ยังล้นตลาดการเงิน จะส่งผลให้มีแรงซื้อสวนกลับหุ้นพื้นฐานดีที่ถูกขายทำกำไรลงมา โดยหุ้นกลุ่มที่น่าสนใจได้แก่ i) กลุ่มส่งออกอาหาร (CPF, GFPT, TFG) ที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 3Q63 จะดีต่อเนื่อง ii) กลุ่มค้าปลีกและสื่อ (COM7, JMART, CPALL, PLANB) iii) หุ้นกลุ่มไบโอดีเซล (PTG, GGC) และเก็งกำไรหุ้นที่มีสตอรี่เด่นคู่แม่ -ลูก อย่าง EA-NEX, JMART-JMT-SINGER นอกจากนี้แนะนำให้ติดตามผลการประชุม ครม สัปดาห์นี้ คาดจะเริ่มทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ตามมา
โดย สุโชติ ถิรวรรณรัตน์
www.mitihoon.com
