มิติหุ้น- TU มั่นใจผลงานไตรมาส 3/63 แกร่งธุรกิจแช่แข็งเด่น พร้อมรักษาเงินสดลดแผนลงทุนปีนี้เหลือ 3.7 พันล้านบาท โบรกอัพเป้ากำไรปี 63 โต 30.1 % รับผลดีธุรกิจอาหารกระป๋องมาร์จิ้นสูง เคาะเป้าใหม่ 17 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) โดย นายบัลลังก์ ไวยานนท์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ดูแลด้านนักลงทุนสัมพันธ์ เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/63 จะออกมาดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 1.7 พันลบ. เนื่องจากการส่งออกอาหารแช่แข็งฟื้นกับเข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงบริษัทได้เริ่มกลับมาเปิดดำเนินการธุรกิจร้านอาหาร “Red Lobster Seafood” ในสหรัฐตามปกติแล้ว หลังจากที่ปิดร้านไปในช่วงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งคาดว่าในส่วนของรายได้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และยังยืนยันเป้าหมายรายได้จากยอดขายปีนี้เติบโต 3-5% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 1.29 แสนล้านบาท
ลดแผนลงทุนตุนเงินสด
อย่างไรก็ตามด้านงบลงทุนปีนี้บริษัทได้ปรับเหลือ 3.7 พันล้านบทจากเดิม 4.9 พันล้านบาท เพื่อรักษากระแสเงินสดเพื่อสำรองไว้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งช่วงที่ผ่านมาของปีนี้บริษัทได้ใช้เงินลงทุนไปแล้วราว 1.4 พันล้านบาท
“อาหารกระป๋อง” มาร์จิ้นสูง
ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า TU ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ขึ้น 30.1 % และ 9.6 % สะท้อนการปรับเพิ่มสมมติฐาน GP ปี 63-64 จาก Product mix ที่ดีขึ้น เนื่องจากธุรกิจอาหารกระป๋องมี มาร์จิ้น สูงกว่าธุรกิจอาหารแช่เย็นและแช่แข็งมาก และมียอดขายที่ดีขึ้น หลังหลายประเทศคลาย Lock down มากขึ้นกดดันแนวโน้ม Gross margin อ่อนตัวลงในงวดครึ่งหลัง แต่ฝ่ายวิจัยยังให้น้ำหนักการฟื้นตัวของธุรกิจหลักในปี 63-64
อัพเป้าใหม่ 17บ.
จึงแนะนำ “ซื้อ” และปรับราคาเป้าหมายใหม่ที่ 17 บาท/หุ้น (จากเดิม 14 บาท/หุ้น) ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบันยังมี Valuation ที่น่าสนใจอิงค่า PE ที่ 13 เท่า และคาดหวังอัตราการจ่ายเงินปันผล (Dividend Yield) กว่า 4%
www.mitihoon.com
