มิติหุ้น- PRINC ส่งซิกผลงานไตรมาส3/63 ฟื้นตัวเด่น หลัง Covid-19 คลี่คลาย หนุนจำนวนผู้ป่วยทะลัก “บิ๊กบอส” ชี้ผลงานไตรมาส 4/63 แรงไม่หยุด บุ๊กร.พ.แห่งใหม่ “ร.พ.อุบลราชธานี” แถมซุ่มปิดดีลซื้อ ร.พ.เพิ่มอีก 1 แห่งภายในร็วๆนี้ มั่นใจบรรลุเป้าหมายมีร.พ.ครบ 20 แห่งภายในปี 65 โชว์กึ๋นรุก“คลีนิค” หวังเจาะลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ชี้เป้า 5 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล หรือ PRINC ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชน โดย “นายสาธิต วิทยากร” ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ PRINC เปิดเผยว่า ผลงานไตรมาส 3/63 จะเติบโตโดดเด่นมากขึ้น เพราะภายหลังจากสถานการณ์ Covod-19 คลี่คลายทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มเข้ามามากขึ้นหรือเติบโตเฉลี่ย 10-15%ต่อแห่ง
ขณะที่ไตรมาส 4/63 จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะวันที่ 1 ก.ย.63 นี้ โรงพยาบาลที่ได้ซื้อกิจการเข้ามา อย่าง โรงพยาบาลจ.อุบลราชธานี จะเริ่มเปิดให้บริการ ซึ่งโรงพยาบาลแห่งนี้มีกำไรก่อนหักภาษี-ค่าเสื่อม(EBITDA) เป็นบวก โดยทำให้ปัจุบันบริษัทมีโรงพยาบาลภายใต้การบริหารทั้งสิ้น 12 แห่ง
ปิดดีลซื้อร.พ.เพิ่ม1แห่ง
ทั้งนี้บริษัทเตรียมเข้าเจรจาเข้าซื้อโรงพยาบาลเพิ่มอีก 1 แห่ง คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปี 63 ซึ่งการทยอยซื้อโรงพยาบาลนั้น เป็นไปตามเป้าหมายภายในปี 2565 มีโรงพยาบาลครบ 20 แห่ง ภายใต้งบลงทุน 3,900 ล้านบาท ไม่เพียงเท่านั้นบริษัทมีแผนเปิด “คลีนิค” รวมถึงการเข้าซื้อหุ้น “คลีนิค” เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นด้วย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนระยะถัดไป
ฐานทุนหนา-รุกธุรกิจฉลุย
ด้านแหล่งเงินลงทุนนั้น ปัจจุบันบริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E)ต่ำ 0.56 เท่า ทำให้มีเพดานในการกู้เงินได้อีกมาก รวมไปถึงหากสามารถได้ข้อสรุปการขายอสังหาฯที่มีอยู่ 3 แห่ง มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท จะทำให้มีสภาพคล่องนำไปลงทุนเพิ่มได้ ประกอบไปด้วย โครงการแมริออท เอ็คเซ็คคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ สาทร วิสต้า-กรุงเทพ โครงการซัมเมอร์เซ็ท เอกมัย แบงค็อก และอาคารบางกอกบิสซิเนสเซ็นเตอร์
ซื้อสะสมเป้า4.90บ.
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า แม้ช่วงครึ่งปีแรกจะติดลบ แต่ทั้งปี 63 จะกลับมาเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลังจากการรับรู้รายได้อย่างเต็มที่จากการเข้าซื้อโรงพยาบาลที่ผ่านมาราว 10-11 แห่ง และตั้งเป้าอีก 2 ปีข้างหน้าจะมี 20 แห่งทั่วประเทศ ดังนั้นเชื่อว่า PRINC จะเป็นหุ้นที่มีอนาคตน่าสนใจ อีกทั้งมี D/Eต่ำ มีกระแสเงินสดมาก ซึ่งหากเอาเงินลงทุน-เงินสด-บวกด้วยอาคารจะมีมูลค่ากว่า 1.3 หมื่นล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 4.90 บาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปี 64 บริษัทมีแผนยื่นเข้า “โครงการประกันสังคม”เพื่อขยายรายได้ ซึ่งมองว่าเป็นฐานรายได้ที่ค่อนข้างมั่นคง โดยแผนเบื้องต้นคาดว่าจะเป็นที่ ร.พ.ศริเวช ลำพูน ซึ่งมีรับโครงการ 30 บาทอยู่แล้ว ในปีแรกที่ระดับ 20,000 คน ขณะที่ขีดจำกัดในการรับได้ที่ 70,000-80,000 คน
ส่วนระยะยาวบริษัทมีแผนในการขยายรายได้จากการเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ สอดคล้องกับสังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเบื้องต้นมีการเซ็น MOU กับ บริษัท Nihon Keiei บริษัทในเครือ NK Group จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ประกอบการด้านการดูแลผู้สูงอายุ ดังนั้นจะส่งผลดีต่อผลงานในระยะยาวมองเป้าหมาย 4.30-5.00 บาท
www.mitihoon.com