TFFIF ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด ยอดใช้เส้นทางบูรพาวิถีฟื้นตัวเร็ว หนุนรายได้ไปต่อ กูรูย้ำยังน่าลงทุน

2677

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ TFFIF ว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/63 (เม.ย.-มิ.ย.) ของ TFFIF ถือว่าถึงจุดต่ำสุดแล้วในช่วงมี Lockdown โดยกองทุนมีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 280 ล้านบาท ซึ่ง -36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) และ -30% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) เพราะรายได้ค่าผ่านทางลดลง

โดยปริมาณการจราจรเส้นฉลองรัชและบูรพาวิถีหดตัว -32% (YoY) และ -34% (YoY) ในไตรมาสนี้ (เฉพาะเดือนเม.ย.ลดลง -47% และ -52% (YoY) ตามลำดับ) ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้ใช้เส้นทางทำให้เริ่มเห็นว่าเส้นทางบูรพาวิถีฟื้นตัวได้เร็วกว่าเส้นฉลองรัช ส่วนหนึ่งมาจากการเดินทางไปท่องเที่ยวโซนตะวันออกมีมากขึ้น

สำหรับการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางรอบปี 2566 ทางฝ่ายวิจัยประเมินจากดัชนีเงินเฟ้อตามเกณฑ์แล้วพบว่าจะต้องปรับขึ้น 5 บาท/เที่ยว แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอและต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว จึงใช้สมมติฐานว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทางในรอบปี 2566 นอกจากนี้ ปรับสมมติฐานในการประมาณการให้อนุรักษ์นิยมมากขึ้น ปัจจุบันกองทุนเหลืออายุอีก 29 ปี ฝ่ายวิจัยจึงปรับลดอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปีของเส้นฉลองรัชเป็น +1.3% และของบูรพาวิถีเป็น +1.6% ในช่วงปี 2562-2591

ทั้งนี้ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาพื้นฐานใหม่ 11.30 บาท (DCF, WACC 5%) ซึ่งมี Upside 12% ฐานะการเงินเป็นเงินสดสุทธิ คาด Dividend yield ปี 63F (สิ้นสุดก.ย.63) เท่ากับ 4% และมี IRR 5.5% ปัจจัยที่จะเป็นตัวกระตุ้น คือ การฟื้นตัวของปริมาณการใช้ทางด่วน, การซื้อสินทรัพย์เข้ามาเพิ่มในระยะต่อไป