SCM ฮอตเทรดวันแรกพุ่ง50.52% ลุยขยายเครือข่ายขายตรง

428

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ หรือ SCM ผู้ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศผ่านธุรกิจแบบเครือข่ายขายตรง หนือ MLM เช้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรกที่ 2.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.96 บาท หรือ +50.52% จากราคา IPO ที่ 1.90 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขายกว่า 170.72 ล้านบาท

นายแพทย์สิทธิวีร์ เกียรติชวนันท์ ประธานกรรมการบริหาร SCM เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลท.จะช่วยเพิ่มโอกาสเติบโตทางธุรกิจของ SCM จากการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปลงทุนเพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต ซึ่งรวมถึงแผนการพิจารณาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้สอดรับกระแสผู้บริโภคในยุค New Normal ที่หันมาให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น และเป็นกลุ่ม High growth ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจ SCM ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการมุ่งเน้นพัฒนาในด้านเทคโนโลยีและ E-marketingเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และการปรับปรุงสาขาเพื่อให้มีความทันสมัยพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการอย่างเต็มที่

ด้านนายนพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCM กล่าวเสริมว่า SCM เป็นบริษัทในธุรกิจเครือข่ายอย่างเต็มตัวรายแรกในไทยที่เข้าจดทะในเบียนในตลท. สะท้อนให้เห็นมาตรฐานการดำเนินงานที่มีคุณภาพและสามารถตรวจสอบได้ ตอกย้ำตัวจริงในธุรกิจเคนือข่ายที่สามารถรักษาระดับยอดขาย

สำหรับจุดเด่นที่สำคัญของ SCM คือการที่มีฐานสมาชิกเหนียวแน่น โดย SCM มีเครือข่ายสมาชิกทั่วประเทศมากกว่า 1.8 แสนราย และมีรายได้ติดอยู่ในอันดับ TOP 10 ระดับ 1,000 ล้านบาท จากกว่า 400 บริษัทเครือข่ายในประเทศไทยและการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเติบโตให้กับ SCM ทั้งในส่วนของการขยายฐานสมาชิก และการบุกตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยผลักดันรายได้ และกำไรเติบโตในอนาคต เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่ ช่วยเพิ่มแหล่งที่มาของรายได้ สนับสนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

บทวิเคราะห์ บล.กรุงไทย ซีมิโก้ ระบุว่า ประเมินมูลค่าพื้นฐานของ SCM ไว้ที่ 2.92 บาท/หุ้น อิง PER 16 เท่า ของประมาณการกำไรต่อหุ้นในปี 2564 เทียบค่า PER เฉลี่ยของบริษัทดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุปโภคและบริโภคทั้งภายในและต่างประเทศในลักษณะเครือข่ายขายตรงในภูมิภาคที่ 17 เท่า และมีส่วนลดจาก PER ของกลุ่มพาณิชย์ที่ 26 เท่า

ทั้งนี้ คาดว่า SCM จะมีกำไรปกติ 3 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ย 24% ต่อปี จาก 70 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 128 ล้านบาท ในปี 2564 ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของธุรกิจเครือข่ายในเมียนมา และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรด้วยการลงทุนโรงงานผลิตสินค้าแห่งใหม่

www.mitihoon.com