ภาวะตลาดและการลงทุนในสัปดาห์นี้ เจอความผันผวนจากการเทขายหุ้นของสหรัฐฯ ส่งผลมาถึงตลาดหุ้นไทยในวันเปิดทำการ ซึ่งมีปัจจัยในประเทศให้จับตาดูอยู่แล้วด้วย โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนจะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป ในวันที่ 8 ก.ย. ว่าจะมีมาตรการใหม่อันใดที่จะส่งผลให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้น อีกทั้งเงินเฟ้อยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา KTBST SEC คาดว่า มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะเริ่มใช้วงเงินซื้อสินทรัพย์ฉุกเฉินประมาณ 1.35 ล้านล้านยูโร 2020 ซึ่งมาตรการนี้จะส่งผลบวกกับสินทรัพย์ทางการเงินเกือบทุกประเภท แต่การซื้อสินทรัพย์จะมีลักษณะซื้อแบบรายเดือนและค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่จะซื้อในครั้งเดียวจนหมดวงเงินภายในปี
ขณะที่ประเด็นความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนเริ่มมีมากขึ้น แต่จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้แต่ละประเทศยังไม่สามารถเปิดให้มีเดินทางระหว่างได้ แต่ยังมีสัญญาณบวกจากตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
สำหรับประเทศไทย ตอนนี้กำลังติดตามดูว่าจะมีรัฐมนตรีคลังคนใหม่เมื่อใด และการชุมนุมทางการเมืองที่ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดอยู่ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มทรงตัว การลงทุนเน้น “ลงซื้อ ขึ้นขาย” จึงเป็นกลยุทธ์ที่แนะนำในช่วงนี้ โดยเน้นหุ้นมีปัจจัยบวกสนับสนุนรวมถึงหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวในภาคการผลิตของต่างประเทศ เช่น สินค้าไอที ,อีเล็คทรอนิคส์ ,ส่งออก ,ยางพารา ประเมินกรอบดัชนี SET Index ในสัปดาห์นี้ที่ 1,300-1,340 จุด
ส่วนการลงทุนต่างประเทศแนะนำกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการค้าออนไลน์ (E-commerce) เนื่องจากมองว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายไตรมาส 3 เป็นช่วงที่มีปริมาณธุรกรรมค้าปลีกออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับการพักฐานของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเป็นจังหวะที่น่าเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในกลุ่มที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งการอนุมัติให้ใช้พลาสมาในการรักษาผู้ป่วย COVID-19 ในสหรัฐ ฯ ทำให้แนวทางในการป้องกันและรักษา COVID-19 ไม่ถูกจำกัดอยู่เพียงการรอวัคซีน
นอกจากนี้ ยังแนะนำการลงทุนสู่ในตลาดหุ้นยุโรป มองว่าความเสี่ยงการแพร่ระบาดโควิดระลอก 2 อยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งรัฐบาลยังมีเครื่องมือในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้หุ้นในกลุ่มที่มีการตอบสนองในเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะได้รับประโยชน์มากกว่าประเทศอื่นๆ ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ แนะนำ ตราสารหนี้เอกชนที่มีช่วงอายุ 3-5 ปี ด้วยมุมมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า รวมถึงทองคำแนะนำยังแนะนำมีไว้ในพอร์ตบ้าง แม้ว่าน่าสนใจจะเริ่มลดลงหลังดอลลาร์เพริ่มปรับตัวขึ้น ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php
โดยคุณชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย)หรือ KTBST SEC
www.mitihoon.com