ECL ปั้น‘ไมตี้โบรกเกอร์’ เทียบชั้นรายใหญ่นายหน้าประกันภัย (18/09/63)

1137

มิติหุ้น-ECL โบรกชี้เปิดฉากตั้ง “บ.ไมตี้โบรกเกอร์” รุกธุรกิจนายหน้าประกันภัย หวังเทียบชั้นรายใหญ่ TQM “บิ๊กบอส” ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังฟื้นตัวชัด เหตุคุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น ยันพื้นฐานแข็งแกร่ง สภาพคล่องสูง ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง หรือ ECL ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถ โดย “นายดนุชา วีระพงษ์” ประธานกรรมการบริหาร และรองประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทได้เริ่มทำ “ธุรกิจนายหน้าประกันภัย” ผ่านบริษัทย่อย “บ.ไมตี้โบรกเกอร์” (Mighty Broker Co,.Ltd) เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายประกันเติบโตขึ้นทุกปี และบริษัทมีบุคลากรที่มีความสามารถในการขายประกันจำนวนมาก

ดังนั้นการจัดตั้งบริษัทย่อย จะทำให้บริษัทได้รับค่าตอบแทนจากการขายประกันมากขึ้น และสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ขายให้กับลูกค้ามากขึ้น ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และประกันอัคคีภัย ซึ่ง“ไมตี้โบรกเกอร์” มีแผนการดำเนินธุรกิจโดยการรักษาฐานลูกค้าเดิมของ ECL และขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ซึ่งคาดว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้มากขึ้น และเติบโตได้อย่างมั่นคงต่อไป

คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น-ยันไม่เพิ่มทุน

ส่วนแนวโน้มผลงานช่วงครึ่งหลังปี 63 จะเติบโตได้ดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 0.75 ล้านบาท และ รายได้รวมที่ 453.30 ล้านบาท  เนื่องจากความต้องการสินเชื่อเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น และเมื่อไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีมาตรช่วยเหลือลูกหนี้ที่รับผลกระทบ Covid-19 เริ่มตั้งแต่ เม.ย.-มิ.ย.63 (และได้เพิ่มไปจนถึง ก.ย.63) ทำให้คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น

นอกจากนี้บริษัทมีการขยายให้สินเชื่อรถบรรทุกไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น และมีแผนในการให้สินเชื่อกับลูกค้าที่มีสัญญาจ้างงานกับบริษัทเอกชนหรือรัฐบาลด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) และเน้นคุณภาพของลูกหนี้มากขึ้น ล่าสุดโครงสร้างการให้สินเชื่อสัดส่วนแบ่งเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล 46%,รถจักรยานยนต์สัดส่วน 37%, รถบรรทุก 17% และอื่นๆ

นายดนุชา กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งมาก และมีสภาพคล่องที่ดี ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด

กูรูชี้เทียบชั้นรายใหญ่

ด้าน “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์” เปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อการจัดตั้ง“บ.ไมตี้โบรกเกอร์” เพื่อทำ “ธุรกิจนายหน้าประกันภัย” เพราะบริษัทมียอดขายประกันเติบโตทุกปีและมีความพร้อมด้านบุคลากร ดังนั้นในอนาคตมีโอกาสผลักดันธุรกิจเทียบชั้นรายใหญ่ๆอย่าง TQM  ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรและรายได้ในอนาคต ส่วนผลงานครึ่งปีหลังจะเติบโตดีขึ้น จากสินเชื่อที่ฟื้นตัวและคุณภาพลูกหนี้ที่ดีขึ้น ปัจจุบันราคาหุ้นยังต่ำบุ๊กแวลู 1.52 บาท แนะนำ “ซื้อ”

www.mitihoon.com