ZIGA รับทรัพย์ออเดอร์ทะลัก หนุนรายได้ทั้งปีทะยานแตะ 1,000 ล้าน

307

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น หรือ ZIGA เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้แตะ 1 พันลบ. เติบโตเกิน 30%YoY หลังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่องในสินค้าบริษัทอย่างเหล็กโครงสร้าง Pre-zinc (แบรนด์ ZIGA) และท่อเหล็กร้อยสายไฟ (แบรนด์ “DAIWA”) เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มเห็นข้อดีในสินค้าบริษัทด้านการมีต้นทุนที่ถูกกว่า ใช้เวลาติดตั้งน้อยกว่า และมีเนื้อผิวที่สวยกว่า เมื่อเทียบกับแบบเก่าที่นำเอาท่อเหล็กดำมาทาสีกันสนิมและทาสีเพื่อความสวยงามเพิ่ม

สำหรับศักยภาพทำกำไรจะดีขึ้น โดยตั้งเป้ากลับไปมีอัตรากำไรสุทธิในระดับสองหลักดังเช่นปี 60 หลักๆ มาจากเกิดผลประหยัดต่อขนาดหลังบริหารสินค้าคงคลังได้ดีขึ้นจากขยายคลังสินค้า และเพิ่มช่องจัดจำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายย่อยทั้งออนไลน์และออฟไลน์ (เปิดร้านในสาขาของ DCC) ซึ่งแม้ปัจจุบันรายได้ยังไม่มากแต่มีมาร์จิ้นดีกว่าช่องจัดจำหน่ายเดิมที่ผ่านร้านค้าปลีกดั้งเดิมและสมัยใหม่

ส่วนในปี 2564 ตั้งเป้ารายได้โตต่อเนื่อง 15% (YoY) จากสินค้าหลักที่คาดยังโตดีหลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและจะเริ่มรับรู้ยอดขายสินค้าใหม่ อาทิ ลวดเชื่อมไฟฟ้า, สีทาเหล็กกัลป์วาไนซ์ เป็นต้น อีกทั้งมีแผนเปิดร้านค้าในสาขาของ DCC เพิ่มจากปัจจุบัน 4 สาขา เป็น 60 สาขาในปี 64 และ 120 สาขาในปี 65

กูรูชี้Valuationน่าสน-เคาะเป้า2.20-2.70บ. 

ด้านนักวิเคราะห์ ประเมินแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังของปี 63 คาดเติบโตเด่นทั้ง YoY และ HoH โดยไตรมาส3/63 คาดกำไรเป็นจุดพีคของปีนี้ หลังมีออเดอร์ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล็กโครงสร้างแบบกลมซึ่งมีมาร์จิ้นดี จนทำให้ตั้งแต่เม.ย.-ปัจจุบันต้องเดินเครื่องจักรเต็มกำลังผลิต ส่วนท่อร้อยสายไฟพบมี Backlog 400 ลบ. ซึ่งจะทยอยส่งมอบให้ลูกค้าโครงการตามสัญญาที่กำหนด ช่วยให้มาร์จิ้นมีแนวโน้มดีขึ้นจากผลประหยัดต่อขนาด ส่งผลให้ปี 63 คาดมีกำไรสุทธิ 84 ลบ. พลิกเติบโตได้เป็นครั้งแรกนับจากเข้า ตลท. ราว 139%YoY และคาดยังโตต่อราว 10%YoY ในปี 64 จากกระแสนิยมใช้เหล็ก Pre-zinc แทนเหล็กท่อดำมากขึ้น

ทั้งนี้แม้โมเมนตัมกำไรเป็นขาขึ้นและ Valuation ยังน่าสนใจ โดยเราประเมินกรอบราคาเป้าหมายปี 64 ที่ 2.20-2.70 บาท (อิง PER 12-15x ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเหล็กปลายน้ำ) พบมี Upside 22-49% อีกทั้งคาดจ่ายปันผลปีนี้หุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็น Div. Yield 4.5% แต่ราคาหุ้นขึ้นมา 78%YTD สะท้อนกำไรปีนี้ที่จะพลิกโตเด่นไปบ้างแล้ว จึงแนะนำซื้อเมื่อราคาพักแนวรับ 1.70-1.73

ขณะที่ความเสี่ยงสำคัญ คือ คำสั่งซื้อที่ชะลอจะกดดันมาร์จิ้นทำให้กำไรต่ำคาดได้เพราะมีต้นทุนคงที่สูง

www.mitihoon.com