ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ดูโฮม หรือ DOHOME โดย “บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/63จะอยู่ที่ 189 ล้านบาท เติบโต 41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 29% จากไตรมาสก่อน ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกอยู่ที่ 512 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 80% ของประมาณการปี 63 โดยกำไรไตรมาส 3/63 ที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จะมาจาก SSSG ที่แข็งแกร่งจากอุปสงค์ของ sub-contractors ในขณะที่กำไรที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน จะมาจากการผ่อนคลายมาตรการ lockdown
ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดสาขา Size L 2 ร้าน (ที่จังหวัดสุรินทร์ และระยอง) ทำให้จำนวนสาขาทั้งหมดเพิ่มเป็น 20 ร้าน (Size XL & L 12 ร้าน และ Size To Go 8 ร้าน) บริษัทกลับมาเปิดดำเนินการตามปกติหลังจากที่มีการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ในเดือนมิถุนายน ดังนั้นจึงคาดว่า GPM จะเพิ่มขึ้นเป็น 16.2% (-0.3ppts YoY, +1.2ppts QoQ) ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรก อยู่ที่ 15.5% (-0.9ppts YoY) ยังต่ำกว่าสมมติฐานของเราที่ 15.8% อยู่เล็กน้อย
อีกทั้งฝ่ายวิจัยคาดว่าบริษัทจะถูกกระทบจากความล่าช้าของพรบ. งบประมาณปี 2564 ไม่มาก เพราะจะได้แรงหนุนจากพรบ. งบประมาณปี 2563 เป็นเวลาสามเดือน ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงปรับสมมติฐาน SSSG ปี 2563 จาก -1.5% เป็น 0.5% แต่คงสมมติฐาน SSSG ปี 2564-65 เอาไว้ที่ 1.5%
ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-65 ขึ้นโดยเฉลี่ย 7% ทั้งนี้ เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่คาดว่าจะออกมาน่าประทับใจในไตรมาส 3/63 และจากการปรับประมาณการกำไร ฝ่ายวิจัยจึง re-rate PER จาก 32.0x เป็น 34.0x (เท่ากับ Siam Global House (GLOBAL.BK/ GLOBAL TB)*)
โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2564 จากเดิม 12.50 บาท เป็น 14.30 บาท อิงจาก PER ที่ 34.0x (+0.5 S.D. ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยระหว่าง GLOBAL และ Home Product Center (HMPRO.BK/HMPRO TB)*) ทั้งนี้ เนื่องจากราคาปิดล่าสุดยังเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของฝ่ายวิจัยอีก 10% ฝ่ายวิจัยจึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” DOHOME แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการจะแข็งแกร่งในไตรมาส 3/63 และมีแนวโน้มจะดีต่อเนื่องไปอีก 2-3 ไตรมาส ฝ่ายวิจัยจึงมองว่ามีโอกาสให้เข้าเก็งกำไรได้
www.mitihoon.com