ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อสมท (MCOT) โดย นายกิตติพงษ์ ขันติรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการเปิดเผยว่า ตามที่ บมจ. อสมท ได้เคยรายงานสารสนเทศเกี่ยวกับการดำเนินการเพื่ออุทธรณ์มติของ กสทช. ต่อศาลปกครอง ภายใน 90 วัน และดำเนินการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การตกลงท ารายการได้มาหรือจหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 นั้น
บริษัทขอเรียนว่า บมจ. อสมท ได้ยื่นคำฟ้องคดีปกครองซึ่งสอดคล้องกับข้ออุทธรณ์ของ บมจ. อสมท ต่อมติ กสทช. โดยเฉพาะประเด็น จำนวนเงินชดใช้หรือค่าตอบแทนงวดการจ่ายเงินและกระบวนการ พิจารณาของ กสทช. ให้เป็นไปตามกฎหมายและประกาศที่เกี่ยวข้องต่อศาล ปกครองแล้ว เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
สำหรับการพิจารณาหลักเกณฑ์การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินนั้น บมจ. อสมท เห็นว่าเงินค่าตอบแทนจากการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ 2600 เมกะเฮิรตซ์ไม่เข้าตามประกาศของคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศคณะกรรมการตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 หลักเกณฑ์ในการท ารายการที่มีนับสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน และประกาศ
คณะกรรมการตลาดทุน ที่ ทจ. 20/2551 เนื่องจากคำนิยามที่ว่า “สินทรัพย์หรือ ทรัพย์สิน” หมายถึง สิ่งที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน ซึ่งบุคคลหรือกิจการเป็นเจ้าของและมีมูลค่า สามารถจำหน่ายจ่ายโอนได้ตามประกาศฯ ไม่ได้ครอบคลุม หรือหมายถึงการที่ บมจ. อสมท ได้รับเงินชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนการถูกเรียกคืนคลื่นความถี่จาก กสทช. ซึ่งเป็นการใช้อำนาจทางปกครองในการเรียกคืนคลื่นความถี่อันเป็นสมบัติของชาติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่ง บมจ. อสมท ไม่เคยบันทึกเป็นสินทรัพย์ หรือทรัพย์สินแต่อย่างใด รวมทั้ง บมจ. อสมท ได้รับอนุญาตให้ใช้งานคลื่นความถี่นี้กับโครงการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็นสมาชิกเป็นการเฉพาะของ บมจ. อสมท เท่านั้น ไม่สามารถจำหน่ายและโอนสิทธิที่ได้รับมาได้ ซึ่งเป็นที่มาของการทำสัญญาจ้างบริหารฯ กับ บริษัทเพลย์เวิร์ค จำกัด
www.mitihoon.com