YLG ชี้ราคาทองคำหลุด $1,900 มีโอกาสลงต่อแต่ไม่น่ากังวล  ภาพใหญ่ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น แนะหาโอกาสทยอยสะสม

101

มิติหุ้น-วายแอลจี เผยราคาทองปรับลดลงหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่น่ากังวล แม้ระยะสั้นจะมีโอกาสลงต่อ แต่ภาพใหญ่ยังดูดี ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น เหตุเศรษฐกิจโลกยังทรุดกดดอกเบี้ยต่ำยาว ชี้หากดอกเบี้ยยังไม่ขยับขึ้นทองก็ยังไปได้ต่อ พร้อมแนะหาจังหวะซื้อสะสม ประเมินแนวรับ 1,847 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน) แนวต้าน 1,8761,890 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เผยปีนี้วายแอลจีปรับกลยุทธ์สู่ออนไลน์มากขึ้น ยกทุกบริการไว้บนโทรศัพท์มือถือตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ล่าสุดพบ 80% ของธุรกรรมมาจากสมาร์ตโฟน ล่าสุดลดการวางหลักประกันทองคำแท่งเหลือ 70,000 บาท เพิ่มโอกาสนักลงทุนหน้าใหม่เข้าถึงการลงทุนในยุค COVID-19

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงเดือนกันยายน ที่มีลักษณะแกว่งตัวลงหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์นั้น มองว่าระยะสั้นจะยังมีโอกาสปรับลดลงได้อีก แต่ระยะยาวมองว่ายังเป็นขาขึ้นเช่นเดิม เพราะปัจจัยบวกทั้งด้านภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ยังคงชะลอตัวจาก COVID-19 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกหลายปีข้างหน้า อีกทั้งประเด็นความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับนักลงทุน และเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้นในระยะยาว

สำหรับการปรับตัวลงของราคาทองในช่วงนี้ ปัจจัยหลักมาจากการที่นักลงทุนโยกเงินลงทุนเข้าสู่ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามมองว่าระยะยาวทองคำยังมีโอกาสไปต่อ เพราะสถานการณ์ COVID-19 ยังน่ากังวล ซึ่งจะเป็นตัวแปรที่ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายต่อไป ท้ายที่สุดแล้วประเมินว่าทองคำยังคงน่าดึงดูด  และแม้ว่าราคาทองจะปรับลดลงในระยะสั้น แต่ในระยะยาวหากดอกเบี้ยยังไม่ปรับขึ้น มองว่าราคาทองคำจะยังเป็นขาขึ้น ดังนั้นแม้ช่วงนี้ราคาทองจะแกว่งตัวลงแต่  YLG ยังแนะนำให้หาจังหวะทยอยเข้าซื้อตามแนวรับ โดยมองแนวรับที่ 1,847 1,831 และ 1,816 ตามลำดับ ขณะที่แนวต้านประเมินไว้บริเวณ 1,876 1,890 และ 1,906 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่ทุกภาคธุรกิจได้รับผลกระทบจาก COVID-19 วายแอลจีได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาดไปสู่ด้านออนไลน์มากขึ้น โดยจะต้องให้ทุกบริการสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าผ่านช่องทางสมาร์ตโฟนได้ ทั้งการลงทุนทองคำออนไลน์ การลงทุนในตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงการซื้อทองคำออนไลน์  และการออมทองเริ่มต้นเพียง 10 บาท ก็สามารถเข้าถึงได้ผ่านสมาร์ตโฟน ซึ่งถือเป็นการปรับรูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์พฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ปัจจุบันธุรกรรมต่างๆของลูกค้าประมาณ 80% มาจากช่องทางของสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ YLG ยังได้ปรับลดการวางหลักประกันสำหรับการลงทุนในทองคำแท่ง โดยลดเหลือ 70,000 บาท จากเดิม 100,000 บาท ซึ่งสามารถลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% ได้หนัก กก. หรือ สามารถลงทุนในทองคำ 96.5% ได้จำนวน 60 บาท เพื่อเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุน โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาลงทุนมากขึ้น เพราะส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้รายได้ลดลง การลงทุนในทองคำจึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ทาง  www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 026879888  และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท  https://www.facebook.com/YLGGroup

www.mitihoon.com