คอลัมน์ KTBST Build Your Net Worth
สัปดาห์นี้ประเด็นสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจติดตามกันคือ การดีเบตกันระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเด็น ผู้ท้าชิงจากเดโมแครต ที่เริ่มต้นในวันที่ 29 กันยายน KTBST SEC เชื่อว่าประชาชนจะให้ความสนใจกับดีเบตในรอบแรกค่อนข้างสูง เนื่องจากมีประเด็นในเรื่องความขัดแย้งทางเชื้อชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งอัตราการติดเชื้อที่ยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามคาดว่าผลของการดีเบตอาจจะยังไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกผู้นำ แต่จะเป็นเรื่องจำนวนการเข้าชมและค้นหาทางสื่อออนไลน์ ที่จะเป็นตัวตัดสินว่าประชาชนจะเลือกใคร โดยทาง KTBST SEC คาดว่านโยบายที่จะเรียกคะแนนเสียงให้กับทั้ง 2 คน ได้อย่างมากจะเป็นเรื่องนโยบายการรับมือกับ COVID-19 ตลอดจนการเปิดเมืองเต็มรูปแบบโดยที่สามารถควบคุมอัตราการติดเชื้อได้ ซึ่งผลกับภาวะตลาดคาดว่าหุ้นจะยังคงปรับตัวขึ้นไปได้ ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งและการดีเบต
ขณะที่สถานการณ์ Covid-19 ในต่างประเทศยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ทั้งในสหรัฐฯเอง และในยุโรปซึ่งเป็นโซนที่ถูกจับตามอง แต่มีมุมมองในเชิงบวกกับตลาดสหรัฐฯ หลังจากมีการผลักดันมาตรการเยียวยา จำนวน 2.4 ล้านล้านเหรียญฯ จากพรรคเดโมแครต ที่คาดว่าจะผ่านเข้าสภาฯในช่วงปลายสัปดาห์นี้
โดยรวม KTBST SEC มีมุมมองบวก จากเรื่องการดีเบต คาดว่าตลาดสินทรัพย์เสี่ยงจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้หากมีการแถลงวิสัยทัศน์เรื่องการวางแผนรับมือ COVID-19 ภายใต้ภาวะ New normal และหากมีแนวทางจะช่วยเหลือภาคธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม จะหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงทางตลาดสหรัฐฯฟื้นตัวได้
เช่นเดียวกับประเทศไทย ที่รัฐบาลเตรียมอนุมัติให้ 5 กลุ่มต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้ ซึ่งจะผลบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว แต่อาจจะยังไม่เป็นผลบวกมากนัก จนกว่าจะเริ่มมีการเดินทางในลักษณะที่ไม่จำกัดจำนวนคนเข้าประเทศ ขณะเดียวกันประเด็นทางการเมืองยังต้องติดตามในเรื่องการชุมนุม
ดังนั้นภาพรวมของทิศทางตลาดและการลงทุนในสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยอาจได้แรงหนุนจากตลาดประเทศ และมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่หลังจากราคาปรับตัวลงมามาก แม้จะมีปัจจัยการเมืองในประเทศกดดันอยู่ซึ่งต้องติตดามอย่างใกล้ชิด นักลงทุนอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรออกมา ประเมินกรอบ SET Index สัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,230-1,300 จุด
ทั้งนี้หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจ คือ กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ปรับตัวขึ้นหลายตัว เช่น ยางพารา , กากถั่วเหลือง, น้ำมันปาล์ม เป็นผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง เช่น STA, NER, TRUBB, TVO, LST, GGC
สำหรับการจัดสินทรัพย์ลงทุนในต่างประเทศ ยังคงแนะนำเหมือนสัปดาห์ที่ผ่านมา ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เน้นลงทุนตราสารทุนในกลุ่มอีคอมเมิร์ซ เนื่องจากเข้าสู่ของการจับจ่ายใช้สอยในปลายปี และหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งสหรัฐฯ รวมไปถึงตราสารทุนทางฝั่งยุโรปด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีปัจจัยบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนสินทรัพย์อื่นๆ แนะนำตราสารหนี้เอกชนที่มีช่วงอายุ 3-5 ปี ด้วยมุมมองว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวช้า
โดย คุณชาตรี โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์
บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC)
ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้” https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php
www.mitihoon.com