ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอว วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า นักลงทุนจับตาการดีเบตรอบแรกระหว่างปธน.ทรัมป์และนายไบเดนซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 21.00 น.ของวันอังคารตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับเวลา 08.00 น.ของวันนี้ (30ก.ย.)ตามเวลาไทย โดยการดีเบตจะใช้เวลารวม 90 นาทีซึ่งผู้เข้าดีเบตจะต้องแสดงวิสัยทัศน์ใน 6 หัวข้อได้แก่ ประวัติของทรัมป์และไบเดน, ศาลฏีกาสหรัฐ, โควิด-19, เศรษฐกิจ, เชื้อชาติและความรุนแรงในเมืองต่างๆของสหรัฐรวมทั้งความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง นักวิเคราะห์คาดจะทำให้การซื้อขายหุ้นมีความผันผวน มากในสัปดาห์นี้
ซึ่งยังเป็นปัจจัยกดดัน SET ผันผวนขณะที่ ธนาคารกลางโลกมองเศรษฐกิจไทยติดลบ 10.4% หากเลวร้าย นอกจากนี้ยังกังวลในวันที่ 1 ต.ค.63 ตลาดหลักทรัพย์ฯยังเปิดให้ทำธุรกรรม Short Sell และเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์ได้ตามปกติอาจทำให้ตลาดผันผวนมาก
สำหรับกลยุทธ์ระยะสั้น ความเสี่ยงยังมาก ควรเล่นรอบ ระยะนี้คาดดัชนีซื้อ-ขายช่วง 1,240-1,280 จุด หากหลุด 1,255 จุดเป็น สัญญาณไม่ดีอีกครั้ง ให้ Stop Loss ด้านกลยุทธ์ระยะกลาง-ยาว เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่สดใส ความเสี่ยงคือ หมดเงินเยียวยา หนี้เสียสูง และการเมืองไทย ร้อนแรงขึ้น แต่ก็มีสัญญาณการฟื้นตัว หลังคลายล็อกดาวน์วัคซีน-ยาคืบหน้า ดอกเบี้ยในตลาดต่ำ เงินออมบางส่วนไหลเข้าตลาดหุ้น มีมาตรการเยียวยา จึงแนะนำทยอย ถอยรับหลักทรัพย์พื้นฐานดีแนวรับคือ 1,240-1,230 จุด และ แนวต้าน 1,270-1,280 จุด
ด้านบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทยระบุว่า การดีเบตระหว่าง “ทรัมป์” และ “ไบเดน” ที่เริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งพบว่าจากสถิติ 5 ครึ่งส่งผลให้ Future ปรับตัวขึ้นบวกอ่อนๆ แต่ครั้งนี้แตะติดตามประเด็น COVID-19 จึงประเมินกรอบดัชนีที่ 1,260-1,270 จุดพร้อมแนะนำ กลุ่ม ICT โดยเฉพาะ ADVANC เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดจาก COVID-19 สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำจึงแนะรอดูจำนวนผู้ติดเชื้อว่าจะมีคลื่นลูกที่ 2 หรือไม่ และ TKN ที่ราคาเป้าหมายพื้นฐาน 13 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิของ TKN จะเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส3/63 เนื่องจาก 1.ประเทศจีนฟื้นตัวจากโควิด-19 เกือบ 100 % แล้วซึ่งคาดจะช่วยกระตุ้นยอดขายจากต่างประเทศ 2.ยอดขายในประเทศฟื้นตัวขึ้นจากการผ่อนคลายการล็อกดาวน์ และ 3. ต้นทุนสาหร่ายลดลง 10 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ลดลง 8 % นำไตรมาส1/63
www.mitihoon.com