บลจ.BCAP เปิดตัวกองทุนRMFใหม่ กองแรกในประเทศไทย ปรับพอร์ตให้อัตโนมัติตามช่วงอายุ

111

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางเมธ์วดี ประเสริฐสินธนา กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บางกอกแคปปิตอล จำกัด (บลจ.บีแคป) หรือ BCAP เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ (BCAP Global Target Date RMF) ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะสมกับแผนการเกษียณของแต่ละช่วงวัยและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร เปิดขายกองทุนครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 1-7 ตุลาคม 63 ลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านสาขาธนาคารกรุงเทพและบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ซึ่งถือเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองแรกของบริษัท

ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนรวมผสม มีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลก กระจายการลงทุนในหลากหลายทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศ ทั้งหุ้น ตราสารหนี้ ทรัพย์สินทางเลือก เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ REITs กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงทองคำ โดยกองทุนจะลงทุนผ่านกองทุนรวมและกองทุน ETF ทำให้มีความคล่องตัวในการบริหารกองทุนสูงและไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล เพื่อสะสมผลตอบแทนที่ได้ลงทุนต่อเนื่อง ส่วนเงินลงทุนในต่างประเทศกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

สำหรับจุดเด่นของกองทุนซึ่งเป็นกองทุน RMF ที่ปรับสัดส่วนการลงทุนให้สอดคล้องตามช่วงอายุ โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามปีที่จะเกษียณอายุผ่าน 3 ทางเลือกกองทุน ได้แก่  BCAP2030RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี ค.ศ.2025-2035 (พ.ศ. 2568-2578) , BCAP2040RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี ค.ศ.2036-2045 (พ.ศ. 2579-2588) และ BCAP2050RMF สำหรับผู้ที่วางแผนเกษียณช่วงปี ค.ศ.2046-2055 (พ.ศ. 2589-2598)

นอกจากนี้แต่ละกองทุนจะมีทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสินทรัพย์คอยดูแลอย่างใกล้ชิดในการปรับพอร์ตการลงทุนและติดตามสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลกับตลาดที่มีความผันผวนค่อนข้างสูง

“กองทุนเปิดบีแคป โกลบอล ทาร์เก็ต เดท เพื่อการเลี้ยงชีพ มีนโยบายลงทุนเหมือนกับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล เวลท์ (BCAP Global Wealth : BCAPGW) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนครอบคลุมทรัพย์สินทั่วโลกเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่แนวทางการบริหารทรัพย์สิน ซึ่งกองทุน BCAP Global Wealth เป็นเหมือนพอร์ตการลงทุน ที่ลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงตามระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ ขณะที่กอง RMF นี้กำหนดสัดส่วนของแต่ละทรัพย์สินให้เหมาะสมกับช่วงอายุของผู้ลงทุนหรือเป้าหมายของผู้ลงทุน “นางเมธ์วดี กล่าว

สำหรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อปฏิบัติตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร โดยกองทุน RMF สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมินและวงเงินลงทุนได้ไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องนับรวมกองทุนเพื่อการออม (SSF) วงเงินปกติ และการออมเพื่อการเกษียณอายุอื่นๆ โดยต้องลงทุนอย่างน้อย 5 ปี นับตั้งแต่ซื้อครั้งแรก (นับแบบวันชนวัน) และขายคืนได้เมื่อถือจนอายุ 55 ปีบริบูรณ์