MJD ปิดการขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ฉลุย นักลงทุนจองเกลี้ยง เดินเครื่องนำเงินลงทุนขยายธุรกิจ

51

มิติหุ้น – “เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์” ปิดดีลเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 500 ล้านเกลี้ยงตามเป้า คาดนักลงทุน มั่นใจในผลการดำเนินงาน เล็งนำเงินลงทุนในโครงการใหม่ แย้มแบ็คล็อกคอนโด 9,023 ล้าน ทยอยการรับรู้อย่างต่อเนื่อง

นางสาวเพชรลดา พูลวรลักษณ์ กรรมการบริหาร บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MJD เปิดเผยว่า จากการเปิดเสนอขายหุ้นกู้มูลค่าการเสนอขายรวม 500 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ เมื่อวันที่ 28-30 ก.ย. 63 บริษัทยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับครั้งที่ผ่านๆ มา ส่งผลให้หุ้นกู้มูลค่า 500 ล้านบาท สามารถขายหมดได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าว เป็นหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ อายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.80% โดยมีการชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุของหุ้นกู้ มีผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ 2 ราย คือ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด และบริษัท หลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด

“ขณะนี้ทั้งผู้ลงทุนรายใหญ่และสถาบันต่างๆ เลือกพิจารณาลงทุนอย่างรอบคอบมากขึ้น 1.เลือกลงทุนในบริษัทที่ยังมีความมั่นคงและมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจภายใต้ข้อจำกัดและสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน 2.เลือกลงทุนในช่องทางที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนน่าสนใจ การที่หุ้นกู้ของเราได้รับการตอบรับอย่างยอดเยี่ยมและรวดเร็วในครั้งนี้ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันถึงผลตอบแทนที่จูงใจ ประกอบกับความมั่นใจของนักลงทุนต่อเครือเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ทั้งผลประกอบการที่รักษาระดับไว้ได้อย่างดีในช่วงครึ่งปีแรก ตลอดจนแนวโน้มการรักษาระดับการเติบโตในอนาคต” นางสาวเพชรลดา กล่าว

นางสาวเพชรลดา กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบริหารกระแสเงินสดอย่างรอบคอบเพื่อรองรับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น สำหรับแผนการระดมทุนผ่านหุ้นกู้ในครั้งนี้ บริษัทจะนำเงินไปแบ่งใช้ใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1.การขยายธุรกิจและลงทุนในโครงการใหม่ 2.การนำมาเป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ 3.การสำรองไว้ชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด ในเดือน เม.ย.2564

ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทยังสามารถรักษาระดับผลการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในสภาวะที่ตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 โดยบริษัทยังสามารถโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่หลายโครงการได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ครึ่งปีแรกของ ปี 2563 บริษัทมีรายได้ถึง 3,836 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิถึง 118 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 อยู่ที่ราว 9,023 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากแบ็คล็อกในครึ่งปีหลังของปีนี้ราว 2,500 – 3,000 ล้านบาท และทยอยรับรู้อย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2565 ทั้งนี้ไม่รวมกับยอดขายใหม่ที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลังสำหรับโครงการพร้อมอยู่ที่มีการขายอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 63 บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ “BB+, Stable”

www.mitihoon.com