มิติหุ้น-ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดโลกการเงินสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรบนเทคโนโลยีประมวลผลและจัดเก็บแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology) ครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อกับระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงบริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล เพิ่มโอกาสความหลากหลายของการระดมทุนและลงทุน ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์และเติบโตอย่างไร้ข้อจำกัดภายใต้กรอบกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และตอบสนองไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล ทั้งนี้ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทยได้เป็นพันธมิตรร่วมพัฒนารายแรก โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนร่วมมือกับพันธมิตรอื่นเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลที่ครบถ้วนตามมาตรฐานโลก คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2564 และจะเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนดิจิทัล ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาร่วมกับทุกภาคส่วนภายใต้นโยบายของสำนักงาน ก.ล.ต.
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เดินหน้าสู่การเป็นตลาดทุนดิจิทัลเต็มรูปแบบอย่างต่อเนื่อง โดยจัดตั้งบริษัท ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย จำกัด ภายใต้กลุ่มตลาดหลักทรัพย์ฯ ขับเคลื่อนการพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การเชื่อมต่อกับระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในตลาดแรก (Initial Coin Offering Portal หรือ ICO Portal) ทุกรายที่มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนและผู้ระดมทุน การซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาดรอง คือ ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Exchange) รวมไปถึงการให้บริการกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Wallet) เก็บรักษาโทเคนดิจิทัล เพิ่มช่องทางใหม่สำหรับผู้ต้องการระดมทุน อีกทั้งยังสร้างโอกาสการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก หลังจากพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยสำนักงาน ก.ล.ต. มีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2561
“ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ KBTG ออกแบบแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิด (Open Architecture) โดยผู้ประกอบการทุกรายสามารถเข้าใช้งานร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และมีกติกาที่ทุกฝ่ายยอมรับและปฏิบัติตาม นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีแผนจับมือกับพันธมิตรรายอื่นเพิ่มเติม เพื่อร่วมมือกันเป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนการพัฒนา ecosystem ของสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกัน ทั้งนี้ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีของธนาคารกสิกรไทยจะเป็นผู้ให้บริการ ICO Portal รายแรกที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพัฒนาขึ้นนี้ ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการประเมินความเป็นไปได้และวิเคราะห์ประโยชน์ที่จะได้รับ เพื่อเตรียมความพร้อมในการยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากสำนักงาน ก.ล.ต. โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการระดมทุนโทเคนดิจิทัลบนแพลตฟอร์มนี้ในปี พ.ศ. 2564 การสร้างแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลนี้เป็นหนึ่งในโครงการของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ตอบสนองนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจรูปแบบดิจิทัลของภาคทางการ ตลอดจนความต้องการของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุน ในอนาคตแพลตฟอร์มนี้จะเชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนดิจิทัลตอบสนองวิสัยทัศน์และนโยบายของสำนักงาน ก.ล.ต.” นายภากรกล่าว
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) เปิดเผยว่าความร่วมมือ KBTG กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการพัฒนาแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรด้วยเทคโนโลยี DLTครั้งนี้ เกิดจากวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการเพิ่มช่องทางการลงทุนในผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มใหม่ ที่เพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจในการระดมทุน และเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนที่มองหาผลิตภัณฑ์การลงทุนที่แตกต่าง มีรูปแบบผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่หลากหลาย เพิ่มเติมจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปัจจุบัน สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของธนาคารกสิกรไทยที่มุ่งเน้นการให้บริการที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและบริหารจัดการความมั่งคั่งของตนเองได้อย่างเท่าเทียม (Democratized Savings and Investment)
“KBTG มีประสบการณ์เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้ริเริ่มพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของระบบหนังสือค้ำประกันบนเทคโนโลยี Blockchain (E–LG on Blockchain) ร่วมกับบริษัท บีซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการใช้งานจริงเป็นลำดับแรกๆ ของประเทศ ดังนั้น ในการพัฒนาครั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์และ KBTG จึงตั้งเป้าหมายที่จะทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มกลางที่จะช่วยสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ภาคธุรกิจไทย ช่วยให้ธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโต สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ และคาดว่าแพลตฟอร์มจะเป็นตลาดที่มีความยืดหยุ่นมากกว่าตลาดเพื่อการลงทุนในปัจจุบัน ด้วยการออกแบบหน่วยลงทุนที่มีการผสมผสานระหว่างหุ้น หุ้นกู้ และกองทุน ที่สามารถให้สิทธิประโยชน์อื่นแก่ผู้ลงทุน ที่นอกเหนือจากผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินได้ ทำให้การลงทุนในโทเคนที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (Asset–Backed Token) กับ ICO Portal มีความน่าสนใจอย่างมาก และเชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเปลี่ยนของโลกการระดมทุนและการลงทุนในประเทศของเราภายใน 2–3 ปีข้างหน้า”
ผู้ประกอบการที่สนใจระดมทุนผ่านแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลที่พัฒนาขึ้น สามารถติดต่อฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ที่อีเมล DigitalAssetPlatform@set.or.th หรือ ติดต่อ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ได้ที่อีเมล DigitalAsset@kbtg.tech
www.mitihoon.com