TU ตั้งบ.ร่วมทุน “ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด” บุกผลิตภัณฑ์อาหาร-เครื่องดื่มสุขภาพ

1772

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) โดย นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน อินกรีเดียนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นร้อยละ 100 ในกิจการร่วมค้า “บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจยูไนเต็ด จำกัด”บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด เป็นบริษัทจัดตั้งขึ้นใหม่ภายใต้กฎหมายไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการร่วมลงทุนกับบริษัท เบฟเทค จำกัด ชื่อว่า บริษัท ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 10ลบ. โดยบ.ย่อยถือหุ้นสัดส่วน49%ที่เหลือ บ.เบฟเทคถือหุ้น51%
วัตถุประสงค์เพื่อร่วมลงทุนและร่วมมือในการพัฒนาสินค้า ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหาร และเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพ ภายใต้แบรนด์หรือเครื่องหมายการค้าของบริษัทฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ ยูไนเต็ด จำกัด

ด้านบล.เอเซีย พลัสระบุ คาดกำไรสุทธิงวด ไตรมาส3/63ของTU เท่ากับ 1.8 พันลบ.(ดีกว่าที่คาดไว้เดิมมาก) เพิ่มขึ้น 5.6%จาก 1) คาดส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจ Red Lobster ลดลงมาก หลังจากที่ร้านอาหาร Red Lobster ในสหรัฐฯ กลับมาเปิดให้ทานในร้านจนเกือบปกติแล้ว2.ธุรกิจอาหารแช่เย็นแช่แข็ง (กุ้งและแซลมอน) ฟื้นตัว หลังจากร้านอาหารและโรงแรมกลับมาเปิดให้บริการ ขณะที่ธุรกิจอาหารกระป๋อง (ทูน่าและซาร์ดีนกระป๋อง) ยังดีต่อเนื่องจึงแนะนำ “ซื้อ”ประเมินราคาเป้าหมายที่ 17บ.อิงวิธี DCF (WACC 7.34%) ราคาหุ้นปัจจุบันมี Valuation ที่น่าสนใจ มีค่า PER ที่ 13 เท่า และสามารถคาดหวัง div Yield ได้กว่า 4%

www.mitihoon.com