ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า จากการที่ราคาหุ้น “บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC” ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนกันยายน โดยเพิ่มขึ้นจากราคา 0.10 บาท ไปยัง 0.46 บาท โดยบริษัทได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างมีนัยสำคัญของบริษัท
อย่างไรก็ตามจากการติดตามการเคลื่อนไหวด้านข้อมูลข่าวสารของ “มิติหุ้น” พบว่าหลังจากที่ ตลท. ประกาศขึ้นเครื่องหมาย C เมื่อ 31 สิงหาคม 63 เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้น < 50% ของทุนชำระแล้ว สำหรับงบการเงินงวดครึ่งปี สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2563 จนกว่าจะแก้เหตุดังกล่าวได้ ปรากฏต่อมาว่า บริษัทมีการประกาศเพิ่มทุนจำนวน 4,590,933,780 หุ้น
โดยจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 3,060,622,520 หุ้น ในสัดส่วน 0.4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.10 บาท และได้เปิดจองซื้อเมื่อวันที่ 24-28 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับจากผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมาก โดยมีจำนวนผู้จองซื้อจำนวน 3,060,622,520 หุ้น ซึ่งจะทำให้บริษัทได้รับเงินราว 306,062,252 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นที่มีให้กับบริษัทรวมถึงมั่นใจในการดำเนินธุรกิจ
ด้าน “นายประพล มิลินทจินดา” ประธานคณะกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า ภายหลังจากการเพิ่มทุนเรียบร้อยแล้ว ทำให้บริษัทมีฐานะการเงินที่เข้มแข็ง สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จากธุรกิจเดิม และมีโอกาสที่จะรุกขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ได้อีก ซึ่งบริษัทมีแผนจะหาพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพ ช่วยสนับสนุนให้บริษัทกลับมา “เทิร์นอะราวด์” ได้ในเร็ววันนี้
แหล่งข่าววงการหลักทรัพย์ เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่ AEC จะมีกลุ่มทุนใหม่หลังจากมีการเพิ่มทุนรอบที่ผ่านมา และมีการทำ big lot หลายครั้ง คาดว่าเป็นกลุ่มทุนใหม่ในกลุ่มการเงิน หรืออาจเป็น “กลุ่มพลังงาน ที่มีธุรกิจเทคโนโลยีในมือ ที่จะมีช่วยผลักดันธุรกิจแนวใหม่ของบริษัท
www.mitihoon.com
