มิติหุ้น- ก.ล.ต. อนุมัตินับ 1 Filing กองทรัสต์ HREIT ประกาศเพิ่มทุนครั้งที่ 2 เพื่อลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 3 จำนวน 5 โครงการมูลค่าไม่เกิน 1,337.70 ล้านบาท เปิดกรุทรัพย์สินมูลค่าโดดเด่นบนทำเลทองโซนภาคตะวันออก รับอานิสงส์รัฐบาลสนับสนุนโครงการ EEC ชูอัตราจ่ายปันผลสูงสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วยระยะยาว เล็งเสนอขายผู้หน่วยลงทุนเร็วๆ นี้ อัพมูลค่าทรัพย์สินทะลุ 11,250.94 ล้านบาท
นางสาวจารุชา สติมานนท์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กองทรัสต์ HREIT ได้ดำเนินการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขออนุญาตเสนอขายหน่วยทรัสต์ สำหรับการเพิ่มทุนครั้งที่ 2 เพื่อลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ในอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ เพื่อเข้าลงทุนในทรัพย์สินหลักเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,337.70 ล้านบาท ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัตินับหนึ่ง Filing เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถนำเสนอขายผู้ถือหน่วยได้ในเร็วๆนี้
ทั้งนี้ ทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนมีความโดดเด่นด้านทำเลทองที่มีศักยภาพสูงเพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ในโซนของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ประกอบการข้ามชาติยักษ์ใหญ่หลายรายที่ต้องการใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตในหลายภาคอุตสาหกรรม และด้วยแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากค่าเฉลี่ยอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ของกองทรัสต์ HREIT ค่อนข้างมีคุณภาพอยู่ในอัตราสูงเมื่อเทียบกับกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียวกัน นับเป็นตัวแปรสำคัญช่วยผลักดันให้อัตราค่าเช่าของกองทรัสต์ HREIT ปรับตัวสูงขึ้นได้ในอนาคต
สำหรับทรัพย์สินหลักที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ประกอบด้วย 5 โครงการเป็นพื้นที่เช่าคลังสินค้าและโรงงานรวม 48,127 ตารางเมตรโดยเป็นทรัพย์สินของ 3 บริษัท ได้แก่
1.บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (สำหรับบางส่วนของโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี 1 (WHA CIE 1))
2.บริษัท ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด (สำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 (WHA ESIE 1) และ โครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 2 (WHA LP 2))
3.บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล บิวดิ้ง จำกัด (สำหรับบางส่วนของโครงการนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ชลบุรี 1 (WHA CIE 1) โครงการดับบลิวเอชเอ โลจิสติกส์พาร์ค 4 (WHALP 4) และโครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี (WHA SIL))
โดยภายหลังจากที่กองทรัสต์ HREIT มีการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 3 แล้ว ผู้ถือหน่วยจะได้รับอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เพิ่มขึ้น เมื่ออ้างอิงจากประมาณกำไรขาดทุนและการจ่ายประโยชน์ตอบแทนตามสถานการณ์สมมติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ได้มีการประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทนและเงินลดทุนต่อหน่วย จำนวน 0.69 บาทต่อหน่วยทรัสต์ สอบทานโดยผู้สอบบัญชี “แม้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะสร้างผลกระทบให้กับหลายภาคส่วนอุตสาหกรรม แต่ด้วยศักยภาพของทรัพย์สินที่กองทรัสต์ HREIT เข้าไปลงทุนมีความโดดเด่นเรื่องอัตราการเช่าพื้นที่ (occupancy rate) ในอัตราสูงเมื่อเทียบกับกองทรัสต์ที่ลงทุนในทรัพย์สินประเภทเดียวกัน สะท้อนถึงศักยภาพของผู้เช่าและทำเลที่ตั้งของทรัพย์สิน ขณะที่ผู้ถือหน่วยจะได้รับผลประโยชน์จากอัตราการจ่ายผลตอบแทนรูปเงินปันผลและเงินคืนทุนในอัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับกองทรัสต์ประเภท Industrial อื่นในตลาดแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดหารายได้และสร้างผลกำไรที่มีความมั่นคงและต่อเนื่องในระยะยาว” นางสาวจารุชา กล่าว
อนึ่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2563 กองทรัสต์ HREIT มีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 9,913.24 ล้านบาท ภายหลังจากการลงทุนในทรัพย์สินหลักที่กองทรัสต์ HREIT จะลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 3 ประมาณการสินทรัพย์รวมของกองทรัสต์ HREIT จะเพิ่มขึ้นเป็น 11,250.94 ล้านบาท
www.mitihoon.com