NRF เตรียมพร้อมเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ 9 ต.ค.นี้  โชว์ศักยภาพมุ่งสู่ผู้นำ “Plant Based Food” พร้อมชูแผนลงทุนผลักดันการเติบโตในอนาคต 

278

มิติหุ้น-บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์’ หรือ NRF ผู้ผลิตและส่งออกอาหารและเครื่องปรุงรสชั้นนำ เตรียมพร้อมเข้าเทรดวันแรก 9 ตุลาคมนี้ มั่นใจนักลงทุนจะให้การตอบรับดี ในการนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) พร้อมโชว์ศักยภาพเป็นหุ้นไทยตัวแรกที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช ชูแผนลงทุนเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต ชั้นนำระดับโลก วางงบลงทุนในการขยายธุรกิจในปี 2563-2565  ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ผลักดันสู่เป้าหมายยอดขายเพิ่มขึ้นแตะ 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า 

นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF ผู้ผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัติที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงและพร้อมรับประทาน และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shape)  กล่าวว่า  บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันที่ ตุลาคม 2563 โดยใช้ชื่อย่อ ‘NRF’ และหลังจากปิดการเสนอขายหุ้น IPO จำนวนทั้งสิ้น 340 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.08 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ ที่ราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 4.60 บาท และมั่นใจว่าจากศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน จะช่วยสนับสนุนให้ NRF เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน     

ทั้งนี้ หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ วางแผนขยายการลงทุนในปี 2563-2565 คาดจะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1,068 ล้านบาท แบ่งเป็น การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ  Ethnic Food มูลค่าเงินลงทุนรวม 270 ล้านบาท อาทิ ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงกระบวนการผลิตของบริษัทฯ และ City Food ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ประมาณ 35% จากปัจจุบันมีกำลังผลิต 19,000 ตันต่อปี และแผนเข้าซื้อหุ้นที่เหลืออีก 85จากบริษัท ซิตี้ฟูด จำกัด ซึ่งก่อนหน้าได้เข้าลงทุนในสัดส่วน 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Plant-Based Food หรือผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช มูลค่าเงินลงทุนรวม 408 ล้านบาท แบ่งเป็น การสร้างโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชในประเทศไทย  การเข้าซื้อโรงงานผลิตอาหารโปรตีนจากพืชในประเทศอังกฤษและสหรัฐฯ โดยร่วมทุนกับ THE BRECKS COMPANY LIMITED หรือ ‘เบรคส์’ เพื่อจัดตั้งบริษัท Plant and Bean Ltd. ที่ประเทศอังกฤษ ปัจจุบัน NRF ถือหุ้นในสัดส่วน 25% และมีแผนจะลงทุนเพิ่มอีกสัดส่วน 25% รวมเป็น 50% ในปี 2564 การลงทุนเพิ่มใน Big Idea Venture และ New Protein Fund I เพื่อได้รับโอกาสในการเพิ่มลูกค้าโดยการเป็น preferred co-packer ให้กับสตาร์ทอัพ พร้อมทั้งได้รับความรู้และเทคโนโลยีล่าสุดของอุตสาหกรรม และลงทุนในเครื่องจักรผลิตเส้นบุกเครื่องที่ 2 เพื่อขยายกำลังการผลิต คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4/63   

การลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Functional Products หรือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-shapes) โดยมีแผนร่วมลงทุนเครื่องจักร V-shape อีก 5 เครื่อง มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 90 ล้านบาท หลังบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญากับ Fluid Energy Group LTD ผู้นำนวัตกรรมเคมีภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้บริการเครื่องจักร V-shape สำหรับผลิตสินค้า Sanitization เพื่อจำหน่ายในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และแถบตะวันออกกลาง และลงทุนใน E-Commerce Platform มูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 300 ล้านบาท โดยจะร่วมทุนกับ Boosted ECommerce Inc. (Boosted) ใน รูปแบบ คือ ลงทุนในกลุ่มบริษัท Boosted Ecommerce Inc. (Boosted) เพื่อบริหารจัดการธุรกิจ e-commerce ของ Third-party seller บน Amazon e-commerce platform และร่วมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อลงทุนใน Consumer Package Goods ในอุตสาหกรรมอาหาร (รวมถึง pet food) ซึ่งแผนการลงทุนดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ คือมียอดขายเพิ่มขึ้นให้ได้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2567 

นางสาววีณา เลิศนิมิตร กรรมการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า NRF นับเป็นหุ้นสาย Food Tech และเป็นหุ้นไทยตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนพืชแห่งอนาคต โดยในช่วงการจองซื้อหุ้น IPO ที่ผ่านมาได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก จากนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งมีความต้องการจองซื้อมากถึง 8 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรแก่นักลงทุนสถาบัน เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และด้วยศักยภาพในการสร้างความเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน และมีเป้าหมายเป็นผู้นำระดับโลกในการเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งอนาคต “Food For Future” 

นอกจากนี้ NRF คือ บริษัทฯ ที่ทำธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นแค่เพียงขายผลิตภัณฑ์เพื่อได้กำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับการจัดการ Sustainable Supply Chain ตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อ การผลิต จัดเก็บ ขนส่งและจัดจำหน่าย ตลอดจนให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียในทุกฝ่ายตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เพื่อเสิร์ฟผลิตภัณฑ์อาหารที่มีรสชาติถูกปาก และดีต่อสุขภาพ ให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรตามความพึงพอใจ และที่สำคัญ คือการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ยังตอบโจทย์สไตล์ผู้คนยุคใหม่อย่าง Millennial (Gen me) ที่เน้นกินอาหารเพื่อสุขภาพอย่างผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของ NRF ที่มุ่งเน้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนของโลก อย่างการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ ทดแทนด้วยอาหารโปรตีนจากพืช นอกจากนี้ ยังถือเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารแห่งแรกของประเทศไทยที่เป็น Carbon Neutral ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันในตลาดโลก 

www.mitihoon.com