ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM โดย ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานกรรมการ เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมความพร้อมเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าเพื่อเพื่อการอุตสาหกรรม จำนวน 7 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก 5 สถาบันการเงินชั้นนำ ประกอบด้วย บมจ.ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL, บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB, ธนารารเพื่อการส่งออกและนำเข้าประเทศไทย (EXIM BANK), บมจ.ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK และธนาคารออมสิน ร่วมกับ 2 บริษัทชั้นนำด้านการก่อสร้าง ได้แก่ “บริษัท ซีเมนส์ เอนเนอร์ยี่ จำกัด ประเทศไทย” และ “บริษัท โตชิบา แพลนท์ ซิสเต็มส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส คอร์ปอเรชั่น” ทำให้มั่นใจถึงศักยภาพในการดำเนินโครงการที่จะลุล่วงตามแผนงานที่วางไว้
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM กล่าวว่า สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าเพื่อการอุตสาหกรรมจำนวน 7 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งสุทธิรวม 980 เมกะวัตต์ เป็นโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนของเดิมเพื่อต่ออายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 5 โครงการ และโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ (เปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้า) 2 โครงการ ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ระยะยาวกับการไฟฟ้าการผลิต แห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เป็นระยะเวลา 25 ปี โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่สำคัญในรูปแบบพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำที่มีคุณภาพและเสถียรภาพเพื่อทั่จะส่งเสริมและดึงดูดการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่จะส่งผลดี และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ มูลค่ารวมของเงินลงทุนในการดำเนินการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าเพื่อการอุตสาหกรรมนี้ คิดเป็นจำนวนรวมโดยประมาณทั้งสิ้น 39,248 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนเงินกู้โครงการ (project finance) จากสถาบันการเงินชั้นนำ อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงรักษาระดับความแข็งแกร่งทางการเงิน โดยมีกระแสเงินสดในมือประมาณ 19,000 ล้านบาท และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเพื่อการลงทุนโครงการต่างๆ และรองรับการเติบโตในอนาคต
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ยังเดินหน้าศึกษาการลงทุนโครงการพลังงานใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าใหเป็นไปตามเป้าหมาย 7,200 เมกะวัตต์ ตามเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้
www.mitihoon.com
