ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายนาวิน อินทรสมบัติ Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ) บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เปิดเสนอขายเทอมฟันด์ซีรีส์ล่าสุด ‘Term Fund Extra’ ให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นวันแรก ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้กองทุนสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วภายใน 4 ชั่วโมง นับเป็นการสะท้อนได้ถึงความต้องการของผู้ลงทุนที่ยังคงมองว่าทางเลือกการลงทุนในยุคที่ดอกเบี้ยต่ำ โดยล่าสุด บลจ.กสิกรไทย เปิดโอกาสให้กับผู้ลงทุนทั่วไปได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนผ่าน Term Fund Plus กองทุนใหม่ ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2021F (KFF21F) ซึ่งจะเปิดเสนอขายในระหว่างวันที่ 12-16 ตุลาคม 2563
นายนาวินกล่าวต่อไปว่า KFF21F มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก โดยเฉพาะตราสารหนี้เอเชีย รวมถึง High Yield Bond บางส่วน ผ่านกองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2021 – IV, Class C(USD)-Acc ในสัดส่วนประมาณ 60% ของพอร์ต ส่วนที่เหลือ บลจ.กสิกรไทย จะบริหารเงินลงทุนในเงินฝากต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝาก Al Khalij Commercial Bank (ประเทศกาตาร์), เงินฝาก Qatar National Bank (ประเทศกาตาร์) และเงินฝาก Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน) เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
“ตราสารหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือระดับที่ลงทุนได้ (Investment Grade) ในภูมิภาคเอเชีย ยังคงได้รับแรงหนุนจาก 1) ความต้องการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้น โดยเป็นการแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น (Search for Yield) ของผู้ลงทุน และ 2) แนวโน้มการออมที่เพิ่มขึ้นของสังคมผู้สูงอายุที่เกิดขึ้นในหลายประเทศโดยเฉพาะในสาธารณรัฐประชาชนจีน เกาหลี และไต้หวัน
ทั้งนี้ แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอาจส่งผลกระทบต่อรายได้และกำไรของบริษัท แต่บริษัทที่ออกหุ้นกู้เอกชนระดับ Investment Grade ในเอเชียส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจและรัฐบาลกลาง ซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานดี ทำให้มีความแข็งแกร่งต่อความไม่แน่นอนของตลาด นอกจากนี้ หุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมจากผู้ลงทุน จึงได้รับประโยชน์จากนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าจะทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำไปอีกนาน โดยระดับราคาหุ้นกู้เอเชียสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ปรับลดลงทำให้มีผลตอบแทนเมื่อเทียบกับความเสี่ยงดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนจากสถานการณ์ COVID-19 ยังคงมีอยู่ ซึ่งอาจทำให้ตลาดเข้าสู่โหมด Risk-off ได้อีก” นายนาวินกล่าว
นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFF21F เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มองเห็นโอกาสจากการกระจายลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ต่างประเทศ และสามารถถือครองหน่วยลงทุนได้เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยผู้ลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds และธนาคารกสิกรไทย ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิให้เฉพาะในวันที่ 12 ตุลาคม 2563 เปิดเสนอขายตั้งแต่เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี เมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY), กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888