มิติหุ้น-BPP ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังสดใส หลัง “โรงไฟฟ้าหงสา” หน่วยผลิตที่ 3 กลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติ แถมเตรียม COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 428 MW “บิ๊กบอส” สั่งลุยธุรกิจเต็มสูบ หวังภายในปี 68 มีโรงไฟฟ้าในมือ 5,300 MW โบรกชี้ผลงานครึ่งปีหลังไม่ธรรมดา ฟาดกำไรโตเกือบ 2 เท่า เหตุกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 18.70 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ หรือ BPP ทำธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักด้านการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง โดย “นายกิรณ ลิมปพยอม” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BPP เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งหลังปี 63 จะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่มีกำไรสุทธิ 1,655 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 5,286 ล้านบาท เนื่องจาก “โรงไฟฟ้าหงสา” หน่วยผลิตที่ 3 จะกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกตินับตั้งแต่ไตรมาส 3/63 ภายหลังจากกหยุดซ่อมบำรุง
ลุยCODพลังงานเพิ่ม428MW
อีกทั้งในช่วงครึ่งหลังปี 63 เตรียมจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 428 MW ได้แก่ 1.โรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 13MW (Yamagata ขนาด 20 MW (CODในQ4/63), Yabuki ขนาด 5 MW (CODในQ4/63)),2.โรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง (Shanxi Luguang) ในจีน ขนาด 1,320 MW (กำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 396 MW) ปัจจุบันก่อสร้างไปแล้ว 83% คาด COD ในช่วงไตรมาส 4/63 และ 3โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศเวียดนาม 19MW คาด COD ในครึ่งแรกปี 64
ปักธงจ่ายไฟฟ้า5,800MW
โดยปัจจุบัน BPP มีโรงไฟฟ้าในมือ 30 โครงการ รวม 2,810 MW ซึ่งเป็นโครงการที่ COD แล้ว 24 โครงการ รวม 2,267 MW และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 6 โครงการ รวม 543 MW โดยบริษัทยังคงเป้าหมายภายในปี 68 มีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหาร 5,300 MW
ด้าน “บล.ธนชาต”เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานช่วงครึ่งหลังปี 63 คาดกำไรจะเติบโตเกือบ 2 เท่า เนื่องจากมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น จาก Solar Farm ในญี่ปุ่น (ยามากาตะ, ยาบุกิ) และฐานที่ต่ำจากการปิดช่อม บำรุง “โครงการหงสาในลาว” โดยแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 18.70 บาท ด้าน “บล.เคจีไอ” แนะนำ “ถือ” เป้าหมาย 18.40 บาท
www.mitihoon.com
