ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารได้ออกหุ้นกู้ชั่วนิรันด์ ที่นับเป็นกองทุนชั้นที่ 1(Additional tier 1) เป็นสกุลเงินต่างประเทศวงเงิน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 23,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงรองรับหนี้เสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ในระยะ 2 ปีต่อจากนี้มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นทั้งระบบ โดยจะทำให้เงินกองทุนtier 1 ในสิ้นปีนี้ของBBLเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 17-18% อย่างไรก็ดี หลังdkiออกหุ้นกู้ครั้งนี้แล้ว ธนาคารจะยังไม่มีแผนที่จะออกเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ย้ำไม่ขายหนี้เน้นบริหารเอง
ทั้งนี้ในส่วนของการบริหารจัดการ NPL นั้น ธนาคารกรุงเทพจะนำมาบริหารหนี้เองทั้งหมด และจะไม่มีการตัดขายหนี้ออกไป โดยมีแนวทางจัดการ เช่น การขยายเวลาชำระหนี้ออกไป เป็นต้น และสำหรับความช่วยเหลือลูกหนี้ภายหลังสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ในเดือนตุลาคมนี้นั้น BBL จะประกาศมาตรการพักชำระหนี้ให้ลูกค้ารายย่อย ทั้งที่เป็นประชาชนทั่วไปและผู้ประกอบการธุรกิจ SME โดยจะพิจารณาตามความจำเป็นแบบรายต่อรายไป
ปัจจุบันในพอร์ตสินเชื่อของธนาคารกรุงเทพมีสัดส่วนของลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็กไม่มากนัก จึงมองว่าหากหมดมาตรการพักชำระหนี้ลงจะส่งผลกระทบต่อธนาคารเพียงเล็กน้อย ขณะที่ประเมินว่าธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบต่อ คือ กลุ่มส่งออก และท่องเที่ยว เช่น โรงแรมที่อาจปิดกิจการ ซึ่งธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือตามนโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มาอย่างต่อเนื่อง
“การออกหุ้นกู้ต่างประเทศ เพื่อเพิ่มเงินสำรองในช่วงทิศทางเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แม้จะมีภาระต้นทุนสูงขึ้นแต่มองแล้วว่าคุ้มค่า เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าและไม่ต้องเพิ่มทุน ซึ่งการออกหุ้นกู้ครั้งนี้จะทำให้ธนาคารมีเงินทุนสำรองสูงขึ้น สามารถรองรับความเสี่ยงและการทำธุรกิจของธนาคารได้ในระยะยาวไปถึงปี 2566” นายเดชากล่าว
www.mitihoon.com