“มั่นคงฯ” เชื่อเรียลดีมานด์ที่อยู่อาศัยแนวราบแนวโน้มยังดี ประกาศเปิดตัว 2 โครงการบน 2 ทำเลสุดฮอตมูลค่ารวม 1,700 ลบ.

49

มิติหุ้น – มั่นคงเคหะการ มั่นใจความต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบ (Real Demand) ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกาศเปิดตัว 2 โครงการ บน 2 ทำเลศักยภาพรุกตลาดไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 มูลค่ารวม 1,700 ล้านบาท ได้แก่ “ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 3” และ “ชวนชื่น พาร์ค ปิ่นเกล้ากาญจนา” เน้นชูจุดเด่นฟังก์ชั่นดีไซน์ใกล้ชิดธรรมชาติ ตอกย้ำแนวคิด ‘Well-Being’ เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย หวังตอบโจทย์พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ประเดิมเปิดพรีเซลล์ “ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 3วันที่ 17 – 18 ตุลาคมนี้ คาดยอดขายสิ้นปีเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท

นายศักดินา แม้นเลิศ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารโครงการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) (Mr. Sakdina Manlerd,Senior Executive Vice President of Project Management, M.K. Real Estate Development Plc.) หรือ MK บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เพื่อเช่าและเพื่อการบริการ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ว่า ยังคงมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยน แปลงไปอันเนื่องมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงทำให้บริษัทฯ ต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด ล่าสุดพร้อมเปิดตัว 2 โครงการใหม่ บน 2 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ โครงการทาวน์โฮม “ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 3” และ โครงการบ้านเดี่ยวบ้านแฝด “ชวนชื่น พาร์ค ปิ่นเกล้ากาญจนา” มูลค่ารวม 1,700 ล้านบาท ประเดิมเปิดพรีเซลล์โครงการแรก “ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 3ในวันเสาร์ที่ 17 วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม 2563  

“เหตุผลสำคัญที่เราเลือกเปิด 2 ทำเลนี้ เนื่องจากเรามองว่าโซนรังสิตและโซนปิ่นเกล้ากาญจนาภิเษก ล้วนต่างเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านมิติของการเดินทางที่สามารถเชื่อมต่อใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงมิติของแหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จึงส่งผลให้ทั้ง 2 ทำเลดังกล่าว ได้กลายเป็นโซนท็อปฮิตของผู้ที่ต้องการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยไปแล้ว” 

สำหรับทั้ง 2 โครงการ เป็นแบบบ้านซีรี่ส์ใหม่ที่เน้นเรื่องของฟังก์ชั่นดีไซน์ เพื่อให้ผู้พักอาศัยได้ใกล้ชิดธรรมชาติ โดยโครงการ ชวนชื่น ทาวน์ รังสิตคลอง 3 เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น สไตล์ Modern Botanical ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สีสันแห่งวิถีชีวิตใหม่ ของการใช้ชีวิต” บนพื้นที่โครงการ 28 ไร่ จำนวน 321 ยูนิต มูลค่าประมาณ 770 ล้านบาท   มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แบบ Bloom ขนาด 17 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 92 ตารางเมตร มี 2 ห้องนอน  1 ห้องอเนกประสงค์  3 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ และแบบ Blossom ขนาด 18.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 120 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท ส่วนโครงการ ชวนชื่น พาร์ค ปิ่นเกล้า–กาญจนา เป็นบ้านแฝดสไตล์ Classic Botanical ภายใต้คอนเซ็ปต์ “วิถีใหม่ของการใช้ชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ” ตั้งอยู่บนที่ดิน 37 ไร่ จำนวน 201 ยูนิต มูลค่าประมาณ 930 ล้านบาท แบบ BIRKIN ขนาด 36.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 143 ตารางเมตร มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท โดย นายศักดินา กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรายังคงตอกย้ำแนวคิด ‘Well-Being’ ซึ่งทั้ง 2 โครงการใหม่ของ “มั่นคงฯ” สามารถตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่าง 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นด้านมาตรฐานการก่อสร้างบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดแบบ Conventional ภายในตัวบ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ตามการใช้งานจริง มีระบบ Air flow เพื่อให้อากาศหมุนเวียนและถ่ายเท ให้การใช้ชีวิตได้ใกล้ชิดธรรมชาติกับพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กับโซน O-Zone Garden ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น มีต้นไม้ฟอกอากาศเพื่อช่วยดูดซับสารพิษ สนามหญ้า ลานนวดเท้าสำหรับให้ผู้สูงอายุมาเดินออกกำลังกายรับลมเบาๆ หรือจะเป็น Playground ที่เสริมสร้างการเรียนรู้ของเด็กๆ รวมถึง Jogging track และพื้นที่ Pet Zone สำหรับสัตว์เลี้ยง พร้อมด้วย เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้งและฟิตเนส ที่ปรับให้สอดคลองกับไลฟ์สไตล์ในยุคของ Next normal ทั้งหมดนี้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัย 

“และเพื่อเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสุดท้าย มั่นคงฯ ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อนำเสนอความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้าด้วยโปรโมชั่น “Knock Out Deal” รับทอง 100,000 บาท และส่วนลดสูงสุด 500,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคมนี้ (เฉพาะโครงการที่เข้าร่วม) ซึ่งคาดว่าจากแผนการตลาดในไตรมาสสุดท้ายจะส่งผลดันยอดขายทั้งปีให้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาทโดยครึ่งปีแรกมียอดขายไปแล้ว 1,300 ล้านบาท” นายศักดินา กล่าวปิดท้าย 

www.mitihoon.com