บลจ.วรรณ เผยความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์เปิดเสนอขายกองทุนทริกเกอร์หุ้นต่างประเทศ ทั้งหมด 4 กองทุน โชว์ผลงานล่าสุด ONE-GLOBALTOP8M และ ONE-GLOBALTOP8M2 โดยกองทุน ONE-GLOBALTOP8M ใช้เวลาเพียง 2 เดือน บริหารกองทุนทริกเกอร์ 8% เข้าเงื่อนไขปิดกองทุน โดยทั้ง 4 กองทุนจะใช้กลยุทธ์ลงทุนผ่าน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth กองทุน Baillie Gifford Worldwide Discovery และ กองทุน UBS Lux Equity SICAV – All China เน้นลงทุนหุ้นคุณภาพ มีความสามารถแข่งสูงและลงทุนได้ในระยะยาว พร้อมเดินหน้าเปิดเสนอขาย ONE-GLOBALTOP8M4 ต่อเนื่อง หากนักลงทุนสนใจกองทุนหุ้นทริกเกอร์ต่างประเทศ ติดต่อได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขาวันนี้ ถึง 28 ต.ค. นี้
คุณพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M2 (ONE-GLOBALTOP8M2) สามารถสร้างเป้าหมายรับซื้อคืนครั้งแรกภายในระยะเวลาบริหารประมาณ 1 เดือน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ระดับราคา NAV ประมาณ 10.5024 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ โดยเงินที่บริษัทรับซื้อคืนจะเข้ากองทุนวรรณเดลี่ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
“โดยที่ผ่านมาบลจ.วรรณได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ด้วยการเปิดเสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์ในตลาดต่างประเทศมาแล้วทั้งหมด 3 กองทุน โดยเปิดเสนอขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M เป็นกองทุนแรกที่ร่วมมือกัน ซึ่งสามารถตอบแทนได้ดีตามเป้าหมาย โดยใช้ระยะบริหารกองทุนประมาณ 2 เดือนและเลิกโครงการก่อนกำหนด จากนั้นเราได้ร่วมมือกันเสนอขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M2 อย่างต่อเนื่อง และบรรลุเป้าหมายการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนภายในระยะเวลาประมาณ 1 เดือน โดยขณะนี้กองทุน ONE-GLOBALTOP8M2 และONE-GLOBALTOP8M3 กำลังอยู่ระหว่างการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากผู้ลงทุนสนใจลงทุนกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในตลาดต่างประเทศ ขณะนี้บริษัทได้ทำการเปิดเสนอขายกองทุน ONE-GLOBALTOP8M4 โดยเปิดเสนอขายถึงวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา” นายพจน์กล่าว
สำหรับนโยบายของกองทุนเปิด วรรณโกลบอล ท็อป 8M4 เน้นกระจายการลงทุนในหุ้นไม่เกิน 80% และส่วนที่เหลือลงทุนในพันธบัตรภาครัฐบาล โดยผู้จัดการกองทุนจะให้น้ำหนักการลงทุนในกองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth กองทุน Baillie Gifford Worldwide Discovery และ กองทุน UBS Lux Equity SICAV – All China ตามลำดับ ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูง เหมาะสมสำหรับการลงทุน โดยน้ำหนักการลงทุนของแต่ละกองทุนดังกล่าวข้างต้นจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน
คุณพจน์ กล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจัยที่ควรติดตามอย่างใกล้ชิดขณะนี้คือการเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศสหรัฐฯ โดยมองว่าก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับฐานในระยะสั้น เป็นเวลาเข้าสะสมหุ้นที่มีพื้นฐานดี มีความสามารถในการแข่งขันสูง เนื่องจาก บลจ.วรรณ เชื่อว่า หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ จบลงไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ จะตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้ในระยะสั้นอาจมีโอกาสที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะถูกเลื่อนออกไปในกรณีที่ฝ่ายผู้ชนะการเลือกตั้งไม่สามารถครองเสียงข้างมากได้ทั้ง 2 สภา แต่อย่างไรก็ตาม บลจ. วรรณมองว่า สุดท้าย มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป
อย่างไรก็ดี หากนักลงทุนต้องการลงทุนในระยะสั้น (ภายในกรอบเวลา 8 เดือน) เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ได้ 8% ในบริษัทที่ศักยภาพและมีความสามารถในการแข่งขันสูงพร้อมกับมีผู้จัดการกองทุนที่มีความสามารถคอยดูแลด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิด ONE-GLOBALTOP8M4 ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้สำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนในตลาดต่างประเทศ