มิติหุ้น – CKP ฉายแววผลงาน Q3/63 พลิกกำไรโดดเด่น 35 เท่า จากรับรู้กำลังผลิตไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ทั้งน้ำงึม2 – ไซยะบุรี ได้เยอะหลังเข้าฤดูฝนปริมาณน้ำในเขื่อนสูงมาก โบรกฯ เคาะคำแนะนำ “ซื้อ” ให้เป้าเหมาะสม 5.80 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ซีเค พาวเวอร์ หรือ CKP ดำเนินธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี ระบุว่า คาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/63 จะเติบโตโดดเด่นถึง 35 เท่า โดยประเมินกำไรสุทธิไว้ที่ 1,200 ล้านบาท โดยได้รับแรงหนุนจาก 1.กำลังผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น 459 MW ของโรงไฟฟ้าไซยะบุรี (XPCL) และ 2.ปริมาณน้ำเข้าเขื่อนที่สูงขึ้นจากสภาพอากาศแบบ La Niña โดยให้คำแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 5.25 บาท
คาดQ3พลิกกำไร-แนะซื้อ
ขณะที่ นักวิเคราะห์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 5.80 บาท โดยมีมุมมองเป็นบวก จาก 1.ผลประกอบการของ CKP สามารถเทิร์นอะราวด์ได้ในไตรมาส 3/63 หนุนโดยโครงการไซยะบุรีซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/63 และโครงการน้ำงึม 2 แจ้งผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น 102% เทียบจากไตรมาสก่อน และ 2. โครงการใหม่ hydro power plant ในลาว ยังอยู่ระหว่างการเจรจาและคาดว่าจะทราบผลภายในปีนี้ โดยคาดว่ามีโอกาสสูงที่บริษัทจะปิดดีลสำเร็จ
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปี 63 ไว้ที่ 518 ล้านบาท เติบโต 93% เทียบปีก่อน และมีโอกาสเกิด upside ต่อประมาณการหากน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยรอความชัดเจนจากข้อมูลในไตรมาส 3/63 ซึ่งเป็นตัวชี้วัดน้ำในครึ่งปีหลัง ต่อเนื่องจนถึงครึ่งแรกปี 64 ก่อนการปรับประมาณการ
ลั่นผลงานโค้งหลังฟื้นแกร่ง
ด้าน “นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์” กรรมการผู้จัดการ CKP กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 63 โรงไฟฟ้าทุกแห่งของบริษัทฯ มีแนวโน้มที่จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะตั้งแต่เดือน มิ.ย.63 ซึ่งเข้าสู่ฤดูฝน ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ “โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2” และ “โรงไฟฟ้าไซยะบุรี” สามารถเดินเครื่องเต็มกำลัง ซึ่งจะส่งผลบวกอย่างเป็นนัยสำคัญต่อผลประกอบการของ CKP
www.mitihoon.com
