CCET ยอดขาย ‘อีเล็คโทรนิคส์’พุ่ง หนุนงบไตรมาส3ไม่ธรรมดา (28/10/63)

536

มิติหุ้น-CCET ส่งซิกไตรมาส 3/63 ผลงานร้อนระอุ ชี้ยอดขายเดือนส.ค.และก.ย.63 โตสนั่น คาดได้รับอานิสงส์การผลิตทั่วโลกฟื้นตัว หลัง Covid-19 คลี่คลาย และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและโครงข่าย5Gหนุนออเดอร์ ‘ผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม’ทะลัก ปักธงขยายการลงทุนทั่วโลกทำเงิน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ CCET ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อีเล็คโทรนิคส์ในรูปแบบของ Electronics Manufacturing Services (EMS) โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก 2 ประเภทคือ อุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม โดย “แหล่งข่าววงการอุตสหกรรม” เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 3/63 จะเติบโตโดดเด่น เมื่อเทียกับไตรมาส 2/63 ที่ขาดทุนสุทธิ 69.59 ล้านบาท รายได้รวมที่ 2.34 หมื่นล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิที่ 226.10 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 2.62 หมื่นล้านบาท

โชว์ยอดขายโตเด่น26%

เนื่องจากยอดขายช่วงเดือน ส.ค.และก.ย.63 ที่ผ่านมาเติบโตอย่างเด่นชัด โดยยอดขายเดือนส.ค.63 อยู่ที่ 305,789 พันเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขายเดือนก.ย.อยู่ที่ 327,062 พันเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นถึง 26.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดน่าจะเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 เริ่มคลี่คลายลงในบางประเทศ และการพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายๆประเทศ ทำให้เริ่มเห็นลูกค้าในต่างประเทศกลับมาสั่งออเดอร์มากขึ้น

โดยลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะเป็นลูกค้าประจำ แต่ก็ยังมีกลุ่มลูกค้ารายใหม่ๆที่เพิ่งเซ็นสัญญา ได้แก่ ลูกค้าทวีปยุโรป, ทวีปอเมริกา, ทวีปอเมริกาใต้, ภูมิภาคเอเชีย, ภูมิภาคออสเตรเลีย และภูมิภาคแอฟริกา ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 150 ราย

รับทรัพย์โครงข่าย5G          

ทั้งนี้คาดว่า หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ รวมถึงการเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐาน 5G จะเป็นตัวเร่งการเติบโตของอุตสาหกรรม EMS เพราะจะทำให้ความต้องการอุปกรณ์เครือข่าย, เซิร์ฟเวอร์, สไตล์โมเดิร์น, โน๊ตบุ๊ค, คอมพิวเตอร์, เราต์เตอร์และ  กล่องแปลงสัญญาณเครื่องพิมพ์เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายในการขยายการลงทุนไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก เพื่อเพิ่มฐานการผลิตและเพื่อสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าทั้งด้านคุณภาพของสินค้าและการบริการ ดังนั้นมั่นใจว่าผลประกอบการจะเติบโตได้อย่างมั่นคงมากยิ่งขึ้น