มิติหุ้น-NYT ออเดอร์ส่งออกรถยนต์ฟื้นครึ่งหลังปี 63 หนุนกำไรไตรมาส3/63 แตะ 55 ล้านบาท พุ่ง 50 % จากไตรมาสก่อนหน้า รับไฮซีซันเต็มเหนี่ยว พร้อมลุ้นปิดยอดส่งออกทั้งปีแตะ7.6แสนคัน โบรกย้ำปีหน้างบพุ่งแรง 360 ล้านบาท.เป้าไกล 4.35 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงาน บมจ.นามยง เทอร์มินัล หรือ NYT ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ตั้งอยู่ในบริเวณท่าเทียบเรือ A5 ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่มีปริมาณการส่งออกรถยนต์มากที่สุดในประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/63 ของ NYT จะอยู่ที่ 55 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 50% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเป็น High Season ของการส่งออกรถยนต์ และยังฟื้นตัวตามยอดส่งออกรถยนต์ในเดือนมิถุนายน- กรกฎาคม 63 ที่เพิ่มขึ้นเป็น 40,000-50,000 คัน/เดือน จากที่ลงไปเหลือ 20,000-30,000 คัน/เดือนใน เมษายน – พฤษภาคม 63 โดยคาดว่ายอดส่งออกรถยนต์ในไตรมาส 3/63 จะอยู่ที่ 1.5 แสนคัน เพิ่มขึ้น 50% จากไตรมาสก่อนแต่เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังลดลง 43% เพราะกำลังซื้อหลายประเทศ โดยเฉพาะแถบเอเชียยังถูกกดดันจาก COVID-19
ปี 63 เป้าส่งออก 7.6 แสนคัน
ส่วนคาดการณ์กำไรทั้งปี 63 อยู่ที่ 269 ล้านบาท จากการปรับลดคาดการณ์ยอดส่งออกรถยนต์ลง 20% เหลือ 758,526 คัน แต่ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ที่ 360 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปีก่อนจากคาดการณ์การฟื้นตัวของยอดส่งออกรถยนต์ และ ต้นทุนในการดำเนินงานที่ลดลงภายหลังได้ต่อสัมปทานกับการท่าเรือ จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 4.35 บาท/หุ้น (Upside 28.7%)
ส่งออกรถยนต์ฟื้นครึ่งหลัง
ด้านนักวิเคราะห์ บล.คิงส์ฟอร์ด เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดส่งออกรถยนต์จากที่ ส.อ.ท.รายงานออกมาในเดือนกันยายน เติบโตเกิน 60,000 คัน จากเฉลี่ยในปีก่อนที่ราว 80,000 คันต่อเดือน ขณะที่รายได้จากการบริการคลังสินค้าซึ่งเป็น Recurring Income น่าจะทำได้สม่ำเสมอ ส่งผลให้อัตรากำไรขึ้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2/63ที่ 43% ส่วนปี 64 คาดว่าผลประกอบการจะเริ่มเข้าสู่ระดับปกติอิงจาก Bloomberg Consensus ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 64 อยู่ที่ 233 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อน นอกจากนี้บริษัทกำลังเริ่มธุรกิจใหม่บริการเรือขนส่งรถบรรทุกจากฝั่งตะวันออก-ตะวันตกผ่านอ่าวไทย โดยถือหุ้น 51% ใน “บริษัท ซีฮอร์สเฟอร์รี่” หากประสบความสำเร็จจะเป็นตัวต่อยอดการเติบโตในอนาคต ดังนั้นแนะนำ “เก็งกำไร” เป้าหมาย 3.70 บาท
