SCGP ลุยซื้อธุรกิจเพิ่ม”Go-Park” หวังเจาะตลาดยุโรป-สหรัฐ

290

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า โดย บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) โดย นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัท ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 ใน Go-Pak UK Limited (หรือ“Go-Pak”) ในวันที่ 2 พ.ย.63 ซึ่ง หลังจากได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จากหน่วยงานที่มีอำนาจในประเทศที่เกี่ยวข้อง ภายหลังการควบรวมกิจการ จะทำให้ธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร (foodservice packaging) ของ SCGP มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี

ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวจะดำเนินการผ่านบริษัทย่อยที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ซึ่ง SCGP จะแจ้งรายละเอียด เพิ่มเติมเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปของการลงทุนประมาณเดือน ธ.ค.63 หลังจาก ได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายด้านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จากหน่วยงานที่มีอำนาจในประเทศที่เกี่ยวข้อง Go-Pak มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองบริสตอล สหราชอาณาจักร และมีฐานการผลิตอยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม

โดยเป็นหนึ่งในผู้นำในการให้บริการโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหารในสหราชอาณาจักร ยุโรปและอเมริกาเหนือ ทั้งจากฐานการผลิตของตนเองและเครือข่ายการจัดหาสินค้าทั่วโลก ซึ่งบรรจุภัณฑ์อาหารเหล่านี้จะนำไปใช้ในการบรรจุอาหารและเครื่องดื่มพร้อมรับประทาน Go-Pak มีฐานลูกค้าเป็นผู้จัดจำหน่ายในภาคธุรกิจการบริการด้านอาหาร ผู้ค้าปลีก และผู้ค้าส่ง ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการร้านอาหาร เครือข่ายร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ร้านขายอาหารนำกลับ รวมถึงผู้ให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ โดยธุรกิจข้างต้นมุ่งเน้นเรื่องความสะอาด ความปลอดภัย คุณภาพ และความสะดวก ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน และเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของความต้องการบรรจุภัณฑ์อาหารทั่วโลก

SCGP มีฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในมาเลเซียและไทย โดยมีตลาดหลักในภูมิภาคอาเซียนและ
ญี่ปุ่น การเข้าซื้อหุ้น Go-Pak เป็นการขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์อาหารของ SCGP ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของฐานตลาดผู้บริโภคของบริษัท และเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ
อีกทั้งเป็นการเสริมศักยภาพในการแข่งขันด้วยการเพิ่มความหลากหลายของโซลูชันด้านบรรจุภัณฑ์อาหาร และขยายฐานการผลิตเพื่อการเติบโตของธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน

Go-Pak ก่อตัั้งขึ้นในปี 52 และมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วง5 ปีที่ผ่านมาโดยในช่วง 12เดือนล่าสุด (ไตรมาสที่ 4/62 -3/63) Go-Pak มีรายได้ 68.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง(ประมาณ 2,800 ล้านบาท) มีมูลค่าสินทรัพย์ 40.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 1,650 ลบ.) เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3/63 และมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร 4 พันล้านชิ้นต่อปี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 250 ประเภท

SCGP เป็นผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งนำเสนอบริการด้านบรรจุภัณฑ์เยื่อและกระดาษ บรรจุภัณฑ์จากวัสดุสมรรถนะสูงและพอลิเมอร์ และบริการบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลายอื่น ๆ โดยมีฐานการผลิตรวมกว่า 40 แห่งในเวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย
โครงการลงทุนดังกล่าวเป็นการได้มาซึ่งบริษัทย่อยที่ขนาดของสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงของการสรุปราคาหุ้นขั้นสุดท้าย จึงยังไม่สามารถคำนวณขนาดของรายการตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ในเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ได้ แต่จากประมาณการในเบื้องต้น ธุรกรรมนี้เมื่อรวมกับรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่เกิดขึ้นในระหว่าง 6 เดือนก่อนวันที่มีการเข้าทพรายการนี้เมื่อเทียบกับมูลค่าของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินรวมของ SCGP สิ้นสุด ณ วันที่30 ก.ย.63 ยังน้อยกว่าร้อยละ 15ของสินทรัพย์รวมและไม่ใช่รายการที่เกี่ยวโยงกัน

ด้านบทวิเคราะห์ บล.กรุงศรรีฯระบุว่า SCGP มีแผนสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งจากการขยายกำลังการผลิตและดีล M&A โดย SCGP มีแผนใช้งบลงทุน 8.2 พันล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาแผนเข้าซื้อกิจการอื่นอีก 3 ดีล ได้แก่ บริษัทบรรจุภัณฑ์ polymer ในเวียดนาม บริษัทบรรจุภัณฑ์อาหารในเวียดนาม และบริษัทผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกในอินโดนีเซีย จะช่วยหนุนให้กำไรโตถึง 54%/8%/9% ในปี 63/64/65F
พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ 42.00 บาท คิดเป็น P/E ปี FY64F ที่ 20 เท่า

www.mitihoon.com