มิติหุ้น-วายแอลจีเผยทองคำเดือนพฤศจิกายนผันผวนในช่วงแรก เหตุเป็นผลการเลือกตั้งสหรัฐ คาดระหว่างวันราคาอาจผันผวนขึ้น-ลงถึง 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองทิศทางราคาเริ่มเข้าใกล้แนวรับ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้มีโอกาสปรับลดลงได้อีกไม่มาก แต่หากมองระยะกลางระยะยาว 1-2 ปี ราคายังเป็นขาขึ้น มีโอกาสแตะแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทดสอบไฮเดิม 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) ผู้นำเข้าและส่งออกทองคำแท่งรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2563 ในช่วงแรกอาจจะมีความผันผวนเนื่องจากนักลงทุนจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ อย่างไรก็ตามแม้ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีแต่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ยังต้องใช้เวลา ดังนั้นนักลงทุนจึงยังให้น้ำหนักกับทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงนี้ที่หลายประเทศในยุโรปเริ่มล็อกดาวน์รอบ 2 ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจึงยังอยู่ในระดับที่นักลงทุนต้องจับตา อย่างไรก็ดีในช่วงนี้ราคาทองคำปรับลดลงมาส่วนหนึ่งเป็นเพราะปรับพอร์ตเพื่อรอดูทิศทางของการเลือกตั้งและการส่งมอบตำแหน่งหลังเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างราบรื่นหรือไม่ จึงทำให้นักลงทุนบางส่วนขายทองคำออกมา ทั้งนี้ ราคาทองคำที่ปรับลดลงมานั้นถือว่าเข้าใกล้แนวรับที่ให้ไว้ 1,850 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 27,200 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งหากหลุดแนวรับดังกล่าวจะลงไปทดสอบ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือประมาณ 26,500-26,600 บาทต่อบาททองคำ ซึ่งหากดูราคาทองคำในปัจจุบันจะเห็นว่าราคาเข้าใกล้แนวรับมากแล้ว ดังนั้นโอกาสปรับลดลงจึงมีอีกไม่มาก
ทั้งนี้ภาพรวมระยะกลางและระยะยาวของทองคำนั้นยังคงเป็นขาขึ้น มองว่ายังคงมีโอกาสไปทดสอบแนวต้าน 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ดังนั้น หากราคาทองปรับลดลงมาที่แนวรับสามารถใช้เป็นจังหวะในการเข้าซื้อสะสมได้ โดยนักลงทุนอาจกระจายความเสี่ยงในการเข้าซื้อด้วยการแบ่งเงินทุนออกเป็น 3 ส่วน แล้วทยอยซื้อทีละส่วน ซึ่งสัดส่วนการลงทุนทองคำที่ดีนั้นควรอยู่ที่ 5 – 10% ของพอร์ตการลงทุนทั้งหมด เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ยังคงมีการนับคะแนนผลการเลือกตั้ง นักลงทุนก็ยังสามารถจับจังหวะเล่นรอบทำกำไรในการลงทุนระยะสั้นได้ เนื่องจากราคาทองคำอาจจะผันผวนระหว่างวัน แกว่งตัวขึ้นลงได้ถึง 50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่มองว่าจะเป็นการแกว่งตัวแรงๆแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะทิศทาง 1-2 ปี ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น เพราะปัจจัยเศรษฐกิจของโลกยังไม่ฟื้นตัวในเวลารวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งในสัปดาห์นี้ธนาคารกลางสหรัฐจะมีการประชุมและคาดการณ์ว่าจะคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำไว้เช่นเดิม ซึ่งก็จะส่งผลบวกต่อตลาดทองคำ ทั้งนี้นักลงทุนที่สนใจลงทุนในทองคำสามารถดูรายละเอียดได้ทาง www.ylgbullion.co.th หรือ โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02–687–9888 และผ่านทางเพจเฟสบุ๊คของบริษัท https://www.facebook.com/YLGGroup
www.mitihoon.com