PRIME ชูการเงินพร้อม รุกดีลซื้อขายโรงไฟฟ้า  มั่นใจธุรกิจใหม่ โซล่ารูฟท็อปดันรายได้ครึ่งหลังโตแรง

291

 

มิติหุ้น-‘PRIME’ มั่นใจจบดีลซื้อขายกิจการโรงไฟฟ้า ดันพอร์ตไฟฟ้าเติบโตต่อเนื่อง ชูการเงินพร้อม D/E ต่ำ คาดเริ่มรับรู้รายได้รับเหมาโซล่ารูฟท็อป ไตรมาส 3 นี้ ดันยอดเติบโตต่อเนื่อง

นายสมประสงค์ ปัญจะลักษณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘PRIME’ ผู้ผลิตพลังงานสะอาดชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า “บริษัทฯ กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในหลายประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังจากที่ PRIME ได้ลงนามในสัญญาโครงการ Cambodia National Solar Park เพื่อพัฒนาและซื้อขายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ กับรัฐบาลกัมพูชาในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้รับเชิญให้เข้าประมูลโครงการขนาดใหญ่ในหลายประเทศ นอกจากนี้ บริษัทฯ กำลังศึกษาความเป็นไปได้ในการซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) แล้ว เพื่อขยายฐานรายได้และสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้เติบโตสวนสภาวะเศรษฐกิจ โดยจะเติบโตทั้งจากธุรกิจหลักคือโรงไฟฟ้าโซลาฟาร์มที่มีสัญญาขายไฟให้กับรัฐ และจากธุรกิจใหม่คือ ธุรกิจการรับเหมาติดตั้งและจำหน่ายอุปกรณ์ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยในครึ่งปีแรก บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 357.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% จากรายได้รวม 336.7  ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2562 และมีกำไรเบ็ดเสร็จ 242 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.3% จากกำไรเบ็ดเสร็จ 161 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปี 2562 โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีอัตรากำไรสุทธิสูงประมาณ 47% ซึ่งนับว่าสูงที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มโรงไฟฟ้า

สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ซึ่งมีธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เป็นที่ปรึกษาโครงการในการวางแผนรวมถึงช่วยจัดประมูลให้รัฐบาลกัมพูชา โดยโครงการนี้จะมีขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ มีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้า 60 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างที่จังหวัดกัมปงชนัง ล่าสุด PRIME อยู่ระหว่างการคัดเลือกสถาบันการเงินเพื่อสนับสนุนโครงการ ซึ่งธนาคารพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) และสถาบันการเงินระดับนานาชาติต่างให้ความสนใจสนับสนุน ทั้งนี้กัมพูชาเป็นประเทศที่กำลังขยายตัวทั้งภาคเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทำให้มีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นสูง บริษัทฯ จึงคาดว่าจะมีโอกาสขยายการลงทุนในกัมพูชาเพิ่มเติมได้ในอนาคต”

“ปัจจุบัน PRIME มีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งทั้งหมดรวม 287 เมกะวัตต์ โดยจ่ายไฟแล้ว 179 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างพัฒนาและก่อสร้าง 108 เมกะวัตต์ โดยตั้งอยู่ในประเทศไทยจำนวน 132.3 เมกะวัตต์  ในประเทศญี่ปุ่นจำนวน 68.2 เมกะวัตต์ ในประเทศไต้หวันจำนวน 8.5 เมกะวัตต์ และล่าสุด บริษัทฯ เตรียมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศกัมพูชา กำลังผลิตติดตั้ง 78 เมกะวัตต์ที่กล่าวไปข้างต้น”

“อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังปรับตัวสู่การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานสะอาด เพื่อตอบสนองกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหประชาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายพอร์ตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด จากปัจจุบัน 287 เมกะวัตต์ เป็น 1,000 เมกะวัตต์ภายใน 5 ปี  โดยอาศัยจุดแข็งของบริษัท คือ ความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการ โรงไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย จึงความได้เปรียบด้านต้นทุน มีพันธมิตรธุรกิจระดับโลก และได้รับการยอมรับในระดับสากล อีกทั้งผู้บริหารของบริษัทฯ มีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนมากกว่า 10 ปี และคาดว่าการเติบโตจะมาจากทั้งการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในส่วนการลงทุนต่างประเทศ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นประเทศที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก อาทิ มาเลเซีย เวียดนาม มองโกเลีย และอุซเบกิสถาน”

“ปัจจุบัน บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘PRIME’ มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วจำนวน 17,017,941,757 บาท (ราคาพาร์ 1 บาทต่อหุ้น) และมีสถานะการเงินที่ดี ข้อมูลทางการเงิน ณ 30 มิถุนายน 2563 ‘PRIME’ มีอัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เพียง 1.12 เท่า โดยมีสินทรัพย์จำนวน 5,580 ล้านบาท และหนี้สินรวม 2,898 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 2,683 ล้านบาท”

www.mitihoon.com