SINGER แรงทุบสถิติใหม่ต่อเนื่อง งบ Q3/63 กำไรสุทธิโต 256.6% อยู่ที่ 117 ล้านบาท รายได้โต 43.5% อยู่ที่ 868 ล้านบาท หนุนผลงาน 9 เดือนแรกปี 63 กำไรสุทธิโต 157.3% อยู่ที่ 319 ล้านบาท จากความสำเร็จในการบริหารจัดการภายในที่มีประสิทธิภาพ พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ายังโตดี แถมได้แรงหนุนจากสินเชื่อรถทำเงินขยายพอร์ตได้ดีกว่าคาด หนุนภาพรวม NPL ลดลงต่อเนื่อง หรืออยู่ที่ประมาณ 5.1% แม่ทัพใหญ่บริษัทฯ การันตีปีนี้ผลงานท็อปฟอร์ม เตรียมจัด EGM ขออนุมัติ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 สำหรับแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 3,000 ล้านบาท รองรับแผนพอร์ตรถทำเงินโตก้าวกระโดดในอนาคต
นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2563 ทำสถิติรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 256.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 32 ล้านบาท มีรายได้รวมอยู่ที่ 868 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 605 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องปรับอากาศ ประกอบกับ ธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน “รถทำเงิน” เติบโตแรง จากการขยายเครือข่ายทีมขาย รวมทั้ง การอนุมัติและติดตามที่รวดเร็ว จากการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุน
ขณะที่ ในงวดไตรมาส 3 ปีนี้ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 44.6 % อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 21.8 % ทำได้ในระดับที่ดีต่อเนื่อง และภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพ( NPL) อยู่ที่ 5.1 % ลดลงจากไตรมาส 2/2563 และ ไตรมาส 1/2563 NPL อยู่ที่ระดับ 6.49% และ 8.1% ตามลำดับ สะท้อนการบริหารจัดการที่ดี และการขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินซึ่งมีระดับ NPL ต่ำไม่ถึง 1%
จากความสำเร็จดังกล่าว สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2563 (มกราคม – กันยายน 2563) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 124 ล้านบาท มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,591 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,889 ล้านบาท
“SINGER สามารถเติบโตได้ตามแผนงานที่วางไว้ และไม่กระทบสถานการณ์โควิด-19 รวมถึง ภาพรวมสถานการณ์ในประเทศ เนื่องจากเรามีพลังทีมขายที่แข็งแกร่งทั่วไทย ไม่ได้กระจุกตัวแค่ในเมือง ทำให้ไม่กระทบแม้เกิดวิกฤต ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้ายังเติบโต รวมถึง การขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินก็ประสบความสำเร็จ” นายกิตติพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3/2563 SINGER ยังได้ขยายทีมขายและสาขาแฟรนไชส์ได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ปัจจุบัน มีตัวแทนขายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2,000 ราย มีสาขาผ่านแฟรนไชส์จำนวน 1,700 แห่ง จากแผนที่ตั้งไว้ปีนี้จะมี 2,000 แห่ง ถือเป็นจุดแข็งสำคัญในการขยายตลาดและให้บริการลูกค้าที่อยู่ในต่างจังหวัด ให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการด้านสินเชื่ออย่างมีคุณภาพและครอบคลุมที่สุด รวมถึงแผนการตลาดและจัดทำโปรโมชั่นร่วมกับกลุ่มเจมาร์ท
ณ งวด 9 เดือนปีนี้ (สิ้นกันยายน 2563) SINGER มีพอร์ตสินเชื่อรวม อยู่ที่ 5,474 ล้านบาท แบ่งเป็นพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire purchase) 2,778 ล้านบาท และพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) 2,696 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50.7% และ 49.3% ตามลำดับ ของสินเชื่อรวมทั้งหมด จากฐานทุนที่แข็งแกร่ง และความพร้อมในการจัดทัพทีมขายที่มีความเชี่ยวชาญ จึงมุ่งเน้นขยายพอร์ตสินเชื่อรถทำเงิน (C4C) ให้เติบโตโดดเด่นขึ้นโดยวางเป้าหมายสิ้นปี SINGER คาดจะมีพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินอยู่ที่ราว 3,400 ล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากสิ้นปีก่อนมีพอร์ตสินเชื่อรถทำเงินอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท และสนับสนุนพอร์ตสินเชื่อรวมปีนี้ให้เติบโตแตะ 5,800 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนมีพอร์ตรวมอยู่ที่ 3,600 ล้านบาท หรือโตกว่า 61% ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้
นายกิตติพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย สินเชื่อรถทำเงินเป็นพอร์ตที่มีอัตราดอกเบี้ยดี และความเสี่ยงต่ำ สนับสนุนความสามารถในการทำกำไร SINGER ให้แข็งแกร่งขึ้น และเพื่อเตรียมความพร้อมในการขยายธุรกิจดังกล่าว และลดต้นทุนทางการเงิน คณะกรรมการบริษัท มีมติให้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563 ในวันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.00 น. เรื่องการออกและเสนอขายหุ้นกู้วงเงินเพิ่มเติมอีกไม่เกิน 3,000 ล้านบาท เพื่อชำระคืนหนี้คงค้าง และ/หรือ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมทั้งการขยายธุรกิจในอนาคต