ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดเคแทม ธีมเมติก ทริกเกอร์ ฟันด์ (KT-TMT) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 11 พ.ย. 2563 โดยกองทุนมีนโยบายลงในในหรือมีไว้ซึ่งหน่วยลงทุนของกองทุนรวมจ่างประเทศ อาทิ หน่วย CIS และ/ หรือ กองทุนรวมอีทีเอฟ และ/หรือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพยื และ/หรือกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กองทุนปลายทาง) ตั้งแต่ 2 กองทุนขึ้นไปโดยการลงทุนในกองทุนปลายทางดังกล่าวมีนโยบายลงทุนทั้งในตราสารแห่งทุน ตราสารแห่งหนี้ ทรัพย์สินทางเลือก และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นใดตามที่กฎหมาย ก.ล.ต. กำหนด โดยกองทุนนี้จะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 100 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม ซึ่งสัดส่วนการลงทุนขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
นางชวินดากล่าวว่า กองทุนนี้มีความน่าสนใจตรงที่มีการบริหารแบบยืดหยุ่นและกระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงโดยใช้กลยุทธการลงทุนแบบกำหนดธีมการลงทุน Thematic Investment ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ซึ่งจะวิเคราะห์แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก หรือ Mega Trends เพื่อค้นหากลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จาก Mega Trends เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายการลงทุนที่ 7%ในระยะเวลา 7 เดือน นอกจากนี้ การเติบโตของการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตของประเทศจีนและประเทศในเอเชียทำให้ประชากรในประเทศสามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตของ E-Commerce และเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือ Fin-Tech จนทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของประชากรจีน จำทำให้ธีม CHINA & ASIA Tech เป็นที่น่าสนใจและเป็นปัจจัยที่ทำให้หุ้นในธีมดังกล่าวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนในการลงทุนระยะสั้นจากการจับจังหวะตลาด และผู้ที่ชื่นชอบในการมองหาโอกาสจากกลยุทธ์การลงทุนในธีม เช่น CHINA & AI, Healthcare Innovation และ Cloud Computing
ทั้งนี้กองทุนจะมีการลงทุนที่ส่งผลให้มี Net Exposure ท่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่างประเทศโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน และหรือการบริหรความเสี่ยงรวมทั้งกองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี)
เงื่อนไขการเลิกกองทุน : บริษัทจัดการจะดำเนินการเลิกกองทุนภายใน5 วันทำการ เมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขใดเงื่อนไขหนึ่ง ตามที่บริษัทจัดการเห็นสมควร ดังต่อไปนี้ (1) เมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกันขึ้นไป และทรัพย์สินของกองทุนที่จะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจะต้องเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.7222 บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดทั้งหมด ณ วันทำการใด หรือ (2) กรณี ณ วันทำการใดก็ตามที่ทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเทียบเท่าเงินสดบางส่วน หรือทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนได้ไม่ต่ำกว่าอัตราที่บริษัทจัดการกำหนด ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งตาม (1) หรือ (2) แล้วแต่กรณี บริษัทจัดการจะพิจารณารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมดภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนที่คืนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 107 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10บาท) อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนภายใน 7 เดือนนับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถทำการขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายที่บริษัทจัดการกำหนด และหาก ณ วันใดก็ตามที่กองทุนเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุนตามเงื่อนไขที่บริษัทจัดการกำหนด บริษัทขอสงวนสิทธิที่จะดำเนินการเลิกกองทุนตามเหตุการณ์ดังกล่าว