มิติหุ้น-NER แย้มผลงานไตรมาส 3/63 โตเด่น ขานรับราคายางพาราพุ่ง แถมส่งมอบออเดอร์ให้ลูกค้ารายใหม่จีน 2 ราย รวม 72,000 ตัน/ปี มั่นใจทั้งปี 63 รายได้พีคทะลุ 1.7 หมื่นล้านบาท ลุยใส่เกียร์เพิ่มกำลังผลิตแตะ 500,000ตัน/ปี โบรกชี้ปี 63 กำไรนิวไฮทะยาน 959 ล้านบาท เติบโต 112% และปี 64 ฟันกำไร 1,378 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ชี้เป้า 6 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในและต่างประเทศ โดย “นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ (9-13พ.ย.63) บริษัทจะประชุมคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด)เพื่อสรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3/63 เบื้องต้นจะเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีการตั้งสำรองไฟไหม้ราว 30 ล้านบาท แต่ก็จะได้รับชดเชยจากประกันภัยในช่วงไตรมาส 4/63
บุ๊กลูกค้ารายใหม่จีน-หนุนQ3แกร่ง
โดยในช่วงไตรมาส 3/63 บริษัทจะได้รับอานิสงส์ราคายางพาราปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทเริ่มส่งมอบยางพาราให้กับลูกค้ารายใหม่จากประเทศจีน ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว (Long Term Contact) จำนวน 2 ราย รวม 72,000 ตัน/ปี และลูกค้ารายใหม่จีนซึ่งเป็นสัญญาระยะสั้นอีก 2-3 รายด้วย
ดังนั้นจากปริมาณออเดอร์ที่เพิ่มขึ้น สนับสนุนให้ “โรงงานแห่งใหม่” มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากกำลังผลิตรวมทั้งสิ้น 1.76 แสนตันต่อปี (รวมทั้ง 2 โรงมีกำลังผลิตรวม 4.60 แสนตันต่อปี) ส่วนความคืบหน้าการเจรจาลูกค้ารายใหญ่จากประเทศอินเดียซึ่งเป็นสัญญา Long Term Contact อีก 2 ราย รวม 48,000 ตัน/ปีนั้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปต้นปี 64
โชว์รายได้นิวไฮทะลุ1.7หมื่นล.
สำหรับทั้งปี 63 คาดรายได้รวมจะเติบโตทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากเป้าหมายเดิมที่ 1.7 หมื่นบ้านบาท เติบโต 25% จากปีก่อน ส่วนยอดขายจะอยู่ที่ 350,000 ตัน/ปี จากปีก่อน 280, 000 ตัน/ปี และ ในปี 64 คาดรายได้รวมทำนิวไฮทะลุเป้าหมายที่ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 3/64 บริษัทมีแผนขยายกำลังผลิตจากโรงงานเดิมอีก 25% ทำให้กำลังการผลิตรวมเพิ่มขึ้นแตะ 500,000 ตัน/ปี
ด้าน “นักวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เปิดเผยว่า ภาพธุรกิจในปี 63และ64 คาดกำไรสุทธิทำนิวไฮอยู่ที่ 959 ล้านบาท เติบโต 112% และกำไรสุทธิที่ 1,378 ล้านบาท เติบโต 44% จากปีก่อน เนื่องจาก NER มีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้น 59% ซึ่งเพิ่งเพิ่มเข้ามาเมื่อเดือน มิ.ย. 63 ประกอบกับแนวโน้มมาร์จิ้นที่เริ่มขยับขึ้นเพราะอุตสาหกรรมได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ทั้งนี้ในปี 64 NER จะลงทุน 220 ล้านบาท เพื่อทำโรงงานแปรรูปยางเป็น “ยางแผ่นรองนอน” ที่ใช้ในวงการปศุสัตว์ประเทศเมืองหนาว ซึ่งครอบครัวผู้บริหารมีประสบการณ์ด้านนี้มายาวนาน
กิบรวบธุรกิจมาร์จิ้นสูง-เป้า6บ.
โดยตั้งเป้าขาย 1 ล้านแผ่นในปี 65 ซึ่งหากทำได้จะมีขนาด 10% ของรายได้ในปี 62 แต่ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 25% เทียบกับ 12-13% ในธุรกิจปัจจุบัน อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยวางสมมติฐานไว้ที่ 3.8 แสนแผ่นในปีแรก (25% ของกำลังการผลิตรวม) โดยข้อดีของธุรกิจนี้ คือ การขยายอัตรากำไรเพิ่ม การลดแรงกดดันของ D/E และกระแสเงินสดที่ดีขึ้นอีกด้วยดังนั้นแนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 5 บาท ด้าน “นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่ง” แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 6 บาท
www.mitihoon.com