มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราฯ ร่วมกับ บี.กริม มอบทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90 ประจำปี 2563 ให้นักศึกษาพยาบาลรวม 700 ทุนมุ่งส่งเสริม พัฒนาศักยภาพบุคลากร “พยาบาล”  สร้างคุณประโยชน์ในระยะยาว

128

 

 

มิติหุ้น-มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในพระราชูปถัมภ์ จัดพิธีมอบทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90 ประจำปี 2563 ให้สถาบันการศึกษาต่างๆ รวม 700 ทุน ประกอบด้วยวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี 30 แห่งทั่วประเทศ เป็นจำนวน 600 ทุน, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก จำนวน 40 ทุน, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ จำนวน 40 ทุน และวิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ 20 ทุน นอกจากนี้ ยังได้มอบทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอีก 8 โรงเรียน รวมเป็นทุนการศึกษาที่มอบในปีนี้ทั้งสิ้น 7,750,000 บาท

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานมูลนิธิฯ กล่าวว่า มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินทราฯ สร้างประโยชน์มากมาย  ช่วยเหลือนักศึกษาวิทยาลัยพยาบาล ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับคนอีกจำนวนมาก เป็นอาชีพที่ผูกพันกับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ดังนั้น การพัฒนาส่งเสริมบุคลากรพยาบาลให้มีคุณภาพ คุณธรรม และเป็นที่พึ่งพาของผู้ป่วย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

นางพวงเพชร บุญสาย เลขานุการมูลนิธิฯ กล่าวว่า มูลนิธิกองทุนการกุศลสมเด็จพระศรีนครินฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2523 ซึ่งมูลนิธิได้เฉลิมฉลองโอกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเจริญพระชนมมายุ 90 พรรษาด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี สังกัดสถาบัพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข โดยใช้ชื่อทุนว่า “ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90”

แรกเริ่มมูลนิธิฯ ได้มอบทุนการศึกษาให้ทุนละ 5,000 บาทต่อปี แต่ได้เพิ่มเป็นทุนละ 8,000 บาทในปี 2550 และในปี 2562 ได้เพิ่มเป็นทุนละ 10,000 บาท เป็นทุนสำหรับการศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 จนจบหลักสูตร 4 ปี ทุนนี้ไม่มีข้อผูกมัดให้นักศึกษากลับมาใช้ทุน แต่หวังที่จะเห็นนักศึกษาที่ได้รับทุนจะปฏิบิตนให้เป็นพยาบาลที่ดี  โดยตลอด 30 ปีที่ผ่านมา มีผู้ได้รับ “ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90” รวมทั้งสิ้น 5,354 ทุน สำเร็จการศึกษาแล้วจำนวน 1,098 คน

นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้ร่วมกับ บี.กริม เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาที่จะออกไปปฏิบัติงานเมื่อจบการศึกษา ด้วยการจัดอบรม “โครงการตามรอยสมเด็จย่า” สำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 3 ของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ที่ได้รับ “ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90” ให้มาเข้าค่ายในกรุงเทพฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาพยาบาลรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้แนวคิด ความเสียสละ และการมุ่งเน้นประโยชน์ส่วนรวม เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ทางวิชาชีพยาบาล และอุดมการณ์ตามรอยสมเด็จย่า เพื่อการพัฒนาประเทศชาติต่อไป ซึ่งมีการจัดมาแล้วรวม 4 รุ่น แต่ปีนี้จำเป็นต้องงดกิจกรรมดังกล่าวด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

มูลนิธิฯ ยังได้จัดกิจกรรม เดิน-วิ่งการกุศล Run for Nurses ซึ่งจัดครั้งแรกในปี 2562 สำหรับปีนี้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงได้ปรับรูปแบบเป็น  Virtual Run เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมสมทบ “ทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90”  ต่อไป

น.ส.ญานิศา พลายอิน นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ปี 2 ซึ่งได้รับทุนต่อเนื่องเป็นปีที่2 กล่าวว่า ได้นำเงินที่ได้รับมาบริหารจัดการทั้งอุปกรณ์การเรียน และค่าใช้จ่ายทั่วไป ช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ส่วนตัวอยากเป็นพยาบาลตั้งแต่เด็กเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เนื่องจากคุณพ่อ เป็นทหารเรือ และคุณแม่ เป็นพยาบาล ที่สำคัญที่สุดคือ มีสมเด็จย่าเป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่างของความมุ่งมั่น กล้าหาญ เสียสละ รู้สึกซาบซึ้งในพระคุณของสมเด็จย่าที่มีต่อวิชาชีพพยาบาล

น.ส.วชิราภรณ์ มยุโรวาท นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลกองทัพอากาศ  ปี 1 กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากเพราะเป็นการได้รับทุนนี้เป็นครั้งแรก ตนเป็นคนร้อยเอ็ดที่บ้านทำนา อาศัยอยู่กับคุณแม่ 2 คน ฐานะทางบ้านไม่ได้ดีมาก การได้ทุนที่สามารถนมาแบ่งเบาภาระของที่บ้านได้ ส่วนตัวอยากเป็นพยาบาลตั้งแต่เรียนมัธยมต้น เพราะต้องการเดินตามรอยพระบาทของสมเด็จย่า ซึ่งเป็นแบบอย่างของการช่วยเหลือคน การเสียสละ ทุ่มเท เดินทางเพื่อไปรักษาคนที่อยู่บนดอย ในพื้นที่ห่างไกล

น.ส.อมรรัตน์ รัชตรังสี นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก  ปี 1 กล่าวว่า ตนไม่เคยได้รับทุนมาก่อน การถูกคัดเลือกให้ได้รับทุนการศึกษาสมเด็จย่า 90 รู้สึกดีใจมาก สามารถนำมาจัดสรรเพื่อการใช้จ่ายต่างๆ ลดภาระคุณพ่อ คุณแม่ เมื่อได้มีโอกาสได้สัมผัสกับอาชีพพยาบาล นอกจากเป็นอาชีพที่ท้าทายแล้ว ยังเป็นอาชีพที่พิเศษที่ได้ทำเพื่อผู้อื่น ต้องขอบคุณความเมตตาของสมเด็จย่า ซึ่งเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจ

น.ส.สศิมา สวดมาลัย นักศึกษาวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดนนทบุรี ปี 3 ซึ่งได้รับทุนต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1 กล่าวว่า รู้สึกภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติที่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับทุน ซึ่งเท่ากับว่าได้สานต่องานของพระองค์ท่าน ส่วนตัวใฝ่ฝันเป็นพยาบาลตั้งแต่เด็ก จากการที่ได้ไปเฝ้าคุณยายที่ป่วยหนัก ได้เห็นพยาบาลดูแลคุณยายอย่างดี เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากทำอาชีพนี้ เพื่อดูแลและช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งพบว่าทุกคำขอบคุณที่ได้รับจากผู้ป่วย ถือเป็นกำลังใจชั้นดีที่จะทำให้เราสามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วง

www.mitihoon.com