มิติหุ้น- ICHI ผลงานไตรมาส 3 ดีต่อเนื่อง ดันน้ำดื่มวิตามินซีสูง-น้ำด่าง 8.5 ออกสู่ตลาดผลตอบรับเยี่ยม “ตัน ภาสกรนที” ย้ำจุดแข็งเหนือคู่แข่งโรงงานผลิตไฮสปีดโบรกคาดกำไรสุทธิไตรมาส3แกร่ง 123 ลบ.เป้า 16.20 บ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อิชิตัน (ICHI) ประกอบธุรกิจเครื่องดื่ม เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่ม อิชิตัน กรีนที, เครื่องดื่มสมุนไพร เย็นเย็นด้าน โดยนายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจผลงานไตรมาส 3/63 เป็นไปตามเป้าหมาย แผนธุรกิจยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง มีการออกสินค้าใหม่ทั้ง อิชิตัน วิตามิน ซี พลัส อี เสริมภูมิต้านทานป้องกันไข้หวัด และ อิชิตันวิตซีซี เครื่องดื่มวิตามินซีสูง ต่อเนื่องจาก อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินบีรวมที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก จึงมั่นใจครึ่งหลังไม่มี Low Season พร้อมคาดตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีศักยภาพเติบโตได้สูงเป็นโอกาสให้ ICHI ชิงความเป็นเจ้าตลาดได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีจุดแข็งด้านโรงงานไฮสปีดที่มีกำลังการผลิตได้ถึง 1,500 ล้านขวด/ปีเหนือคู่แข่ง พร้อมมั่นใจว่าปีนี้รายได้แตะ 5,300 ล้านบาท เติบโตไม่น้อยกว่า 5 % กำไรสุทธิเติบโต 30 % หรือไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท
รายได้ Q3 แกร่ง
ด้านบทวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า คาดกำไรปกติ ไตรมาส3/63 ที่ 123 ล้านบาท ลดลง15.1% จากไตรมาสก่อน แต่เติบโต 76.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการชะลอตัวจากไตรมาสก่อนที่น้อยกว่าทุกปีที่จะลดลง 30 – 50% เมื่อคิดกำไรรวม 3 ไตรมาสแรกของปี 63 เท่ากับ 431 ล้านบาทหรือคิดเป็น 79.6% ของ ประมาณการทั้งปี
ส่วรคาดรายได้ไตรมาสมาส3/63ของ ICHI จะอยู่ที่ 1,320 ล้านบาท เติบโต 16.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตในส่วนของเครื่องดื่มไซส์เล็ก และรายได้เพิ่มเติมจากสินค้าใหม่ด่าง PH8.5 ที่รับรู้รายได้ได้เต็มไตรมาสราว 100 ล้านบาท คาดมาร์จิ้นเพิ่ม (GPM) ขึ้นมาอยู่ที่ 20 % ในไตรมาส 3/63 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 18 % จากกำลังการผลิตที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนคงที่ต่อหน่วยลดลง ส่วนไตรมาส 4/63 ต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้เต็มไตรมาสของเครื่องดื่มผสมวิตามินทั้ง 3 ชนิด
ยอดขายน้ำดื่มวิตามินพุ่ง
ส่วนแนวโน้มปี 64 จะเป็นปีที่รับรู้รายได้กลุ่มเครื่องดื่มผสมวิตามินได้เต็มปี ซึ่งตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินยังสามารถเติบโตได้อีกมากคาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,200 ล้านบาท จาก 400 ล้านบาท ในปีนี้หรือคิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้รวม และรายได้การส่งออกจะดีขึ้นจึงคาดกำไรปกติของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ราว 726 ล้านบาท เติบโตสูง 34.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจึงยังคงการประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 64 ที่ราคา 16.20 บาท
www.mitihoon.com
