YGG โชว์ไตรมาส3/63รายได้นิวไฮกว่า60ล้าน งานโฆษณาเกมจากจีนพุ่ง-ไฟเขียวปันผลระหว่างกาล

111

มิติหุ้น – อิ๊กดราซิล ไตรมาส 3/63 กวาดรายได้กว่า 60 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุด  รับอานิสงส์ New Nomal ดันงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกโฆษณาเกมจากจีนโตเกินเป้า ขณะที่งานภาพยนตร์แอนิเมชั่น  ขยายตัวได้ต่อเนื่อง ส่งผลกำไรสุทธิ 20.19 ล้านบาท พร้อมโชว์งานรอรับรู้รายได้ 75 ล้านบาท   เตรียมเปิดตัวเกมใหม่เร็วๆนี้ มั่นใจปีนี้โตตามเป้า 15-20%  ด้านมติบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 0.125 บาท

นายธนัช จุวิวัฒน์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG  กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ ในไตรมาส 3 ของปี 2563 มีรายได้จากการขายหรือให้บริการรวม 60.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 ล้านบาท เมื่อเปรียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 5.20%  ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด

โดยมีกำไรสุทธิ 20.19 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 28.36 ล้านบาท ลดลง 28.78%   ซึ่งสาเหตุที่กำไรสุทธิลดลง เนื่องจากในช่วงเดียวกันของปี 62 มีกำไรจากรายการพิเศษเกิดขึ้น แต่หากคิดเฉพาะกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส3/63 บริษัทมีกำไร 20.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.3%  เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 62 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 17.1 ล้านบาท

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯในไตรมาส 3 / 63 งานคอมพิวเตอร์กราฟฟิก(VFX)มีรายได้  33.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  104.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัท มีโปรเจคการทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิกสำหรับโฆษณาเกมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง   ในส่วนงานภาพยนตร์แอนิเมชั่น( Animation) มีรายได้ 24.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.13%  เนื่องจากมีโปรเจคระยะยาวที่รับรู้รายได้ และยังมีโปรเจคใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในส่วนของงานเกมที่มีรายได้ 3.12 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน  86.24% เนื่องจากบริษัทฯ ไม่ได้มีการรับจ้างผลิตเกมอย่างมีนัยยะสำคัญ   โดยบริษัทได้หันมาพัฒนาและผลิตคอนเทนต์ที่เป็นของบริษัทเอง ซึ่งได้มีการผลิตเกม Home Sweet Home Survival ที่จะมีการเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้

“รายได้ในไตรมาส3ปีนี้ ถือเป็นสถิตินิวไฮ โดยรายได้หลักมาจากงานในส่วนคอมพิวเตอร์กราฟฟิก โดยเฉพาะในส่วนการการโฆษณาเกมจากประเทศจีน ซึ่งโตกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่บริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้(Backlog)อยู่ที่ 75 ล้านบาท” นายธนัช กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้าย  คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลให้ประเมินว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตตามเป้าหมาย 15-20%  นอกจากนี้งานด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก สำหรับโฆษณาเกมเข้ามาต่อเนื่อง   รวมทั้งงานภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากต่างประเทศก็ยังขยายตัว เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ทั่วโลกมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้คณะกรรมการยังมีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3/63 ให้กับผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.125 บาท  โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นวันที่ 26 พฤศจิกายน 63 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 ธันวาคม 63

www.mitihoon.com