มิติหุ้น- PRM อวดไตรมาส 3/63 กำไรสุทธิ 456.3 ล้านบาท พุ่งทะยาน 58% หลังบริหารจัดการกองเรืออย่างมีประสิทธิภาพ โดยยังมีกลุ่มเรือ FSU เป็นพระเอก แถมไฟเขียวแจกปันผลระหว่างกาลอัตราหุ้นละ 0.07 บาท จับตาไตรมาส 4/63 ลุ้นกำไรทำนิวไฮ เหตุธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศฟื้นตัวชัด ทั้งปี 63 กำไรสุทธิสุดพีค 1,219 ล้านบาท วิ่งชน 12.50 บาท
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.พริมา มารีน หรือ PRM ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย โดย “นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์” ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/63 บริษัทมีรายได้รวม 1,508.2 ล้านบาท เติบโต 8.57% และมีกำไรสุทธิ 456.3 ล้านบาท เติบโต 58.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทุกธุรกิจโตฉลุย
โดยมีปัจจัยมาจาก “กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งและกักเก็บปิโตรเลียมกลางทะเล หรือ กลุ่มธุรกิจเรือ FSU” ที่มีการปรับอัตราค่าบริการตั้งแต่ช่วงต้นปีและมีการให้บริการเต็ม 100% สอดคล้องกับความต้องการในการกักเก็บและผสมน้ำมันที่ยังมีความต้องการใช้สูง
ขณะที่ “กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ” ยังคงปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันในประเทศ โดยยังคงรักษาอัตราการใช้เรือของกลุ่มบริษัทฯ หรือ Utilization rate ให้มากกว่า 90% ซึ่งจะมีระดับความสามารถในการทำกำไรมากกว่าการจ้างเรือภายนอก ประกอบกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ยังคงรักษาความสามารถในการดำเนินงานที่ดี
ดังนั้นทำให้ผลการดำเนินงานของ PRM ในช่วง 9 เดือนแรกของปี63 ที่มีรายได้รวม 4,508.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% และมีกำไรสุทธิ 1,243.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปันผลระหว่างกาล0.07บ.
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 12 พ.ย.63 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรร สำหรับผลประกอบการ 9 เดือนแรก (สิ้นสุด30ก.ย.63) ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 0.038 บาทต่อหุ้น และที่เหลือจ่ายจากส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) อีก 0.032 บาทต่อหุ้น ซึ่งผู้ได้รับเงินปันผลจะไม่ได้รับเครดิตภาษีในส่วนนี้ โดยบริษัทจะกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 27 พ.ย.63 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 9 ธ.ค.63
นายวิริทธิ์พล กล่าวเสริมว่า แม้ว่าในปี 63 ประเทศไทยประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 แต่กลุ่มบริษัทมั่นใจในศักยภาพและการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะผลักดันการเติบโตในปี 63 ให้เป็นไปตามแผน และรวมถึงมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมในอนาคตอีกด้วย
ลุ้นกำไรQ4นิวไฮ-จ่ออัพเป้า12.50บ.
“นายณัฐพล คําถาเครือ” นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/63 มีลุ้นกำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) เพราะธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันในประเทศเริ่มฟื้นตัวตามทิศทางของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยหนุนความต้องน้ำมันอากาศยานที่ชะลอให้กลับมาฟื้นตัว ขณะที่ เรือ FSU ยังทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง
ดังนั้นทั้งปี 63 มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้นจากเดิมคาดกำไรสุทธินิวไฮที่ 1,219 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน ส่วนปี 64 คงเป้ากำไรสุทธินิวไฮที่ 1,380 ล้านบาท เติบโต 13% จากปีก่อน แนะนำ “ซื้อ”เป้าหมาย 12.50 บาท
www.mitihoon.com