D โตแกร่งสวนโควิด! Q3/63 พลิกโชว์กำไร ยอดขายอุปกรณ์ทันตกรรมหนุน-บริหารต้นทุนเจ๋ง ย้ำทำงานฝ่าวิกฤติสุดกำลัง-มั่นใจปี 63 งบการเงินพลิกเป็นบวก

159

มิติหุ้น – D โชว์งบไตรมาส 3/63 โตแกร่งสวนโควิด พลิกมีกำไร 16.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3.69 ล้านบาท ยอดขายอุปกรณ์ทันตกรรมหนุนและสามารถคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ “ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล”มั่นใจปี 63 ภาพรวมผลการดำเนินงานมีกำไร  เผยขณะนี้ลูกค้าต่างชาติพำนักในไทยมาใช้บริการ BIDH มีสัดส่วนราว 30% ของรายได้ ระบุไม่ต้องห่วงปัจจุบันกระแสเงินสดเป็นบวก พร้อมรับสภาวะการแพร่ระบาดโควิด จนกว่าลูกค้าชาวต่างชาติจะเดินทางเข้าไทยได้ตามปกติ คาดบริษัทย่อยกวาดยอดขายอุปกรณ์ทันตกรรมปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) ผู้นำทางธุรกิจทันตสุขภาพของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยสำหรับไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2563 มีกำไรสุทธิ 16.70 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 3.69 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของยอดขายสินค้าของส่วนงานจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรมในช่วงไตรมาส 3/63 และแผนการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกลุ่มบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และพลิกกลับมามีกำไร ทั้งในส่วนงานจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม และส่วนงานบริการด้านทันตกรรม

ในส่วนของบริษัทย่อย ซึ่งทำธุรกิจด้านการซื้อขายอุปกรณ์ทันตกรรม ในไตรมาส 3 ปีนี้ก็พลิกมาทำกำไรได้เช่นกัน และมีการประมูลงานต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้จากงานโครงการปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท อีกทั้งรายได้จากการให้บริการด้านทันตกรรม ของผู้มารับบริการที่เป็นคนไทยเพิ่มมากขึ้น ทดแทนรายได้จากลูกค้าต่างชาติบางส่วน

นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ได้มีการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการบริหาร ต้นทุนวัสดุทันตกรรม ค่าเช่า และ
ผลจากการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร ในช่วงต้นปี 2563 ทำให้บริษัทฯมีผลประกอบการดีขึ้นในภาพรวม

ขณะเดียวกันรายได้ของโรงพยาบาลทันตกรรม BIDH เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ปีก่อนหน้านี้อย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันมีลูกค้าชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย มาใช้บริการทันตกรรมที่ โรงพยาบาลฟัน BIDH คิดเป็นสัดส่วนราว 30% ของรายได้รวม ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร D คาดการณ์ว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีผลกำไรเพียงพอ ที่จะทำให้ผลประกอบการโดยรวมในปี 2563 ของกลุ่มบริษัทพลิกกลับมาเป็นบวกได้  ทั้งนี้บริษัทฯมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดที่เป็นบวกมากพอ สำหรับรองรับการดำเนินธุรกิจในสภาวะที่มีการระบาดของเชื้อโควิด-19 จนกว่าผู้มารับบริการจากต่างประเทศ จะสามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้ตามปกติ

www.mitihoon.com