ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ตามที่ นสพ.มิติหุ้น ได้นำเสนอข่าวการร่วมทุนระหว่าง “ธนาคารออมสินและพันธมิตร” มาอย่างต่อเนื่องนั้น
ล่าสุดวานนี้ (17 พ.ย.63) ที่ประชุมคณะกรรมการของ “บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD” ได้มีมติร่วมลงทุนกับ “ธนาคารออมสิน” โดย “ธนาคารออมสิน” จะเข้ามาร่วมทุนใน “บริษัท เงินสดทันใจ หรือ FM (SAWAD ถือหุ้น 100%)เพื่อการดำเนินธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน
“นายวิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินจะร่วมลงทุนกับ FM ด้วยการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญสัดส่วนไม่เกิน 49% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด จำนวนเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถให้ลดต่ำลงสู่ระดับ 18% เมื่อเทียบกับปัจจุบันที่อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 24%
ทั้งนี้การที่ SAWAD เป็นผู้ดำเนินธุรกิจนอนแบงก์ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีศักยภาพในการแข่งขัน มีประสบการณ์ในธุรกิจจำนำทะเบียนรถมามากกว่า 40 ปี มีความพร้อมให้บริการประชาชนทั้งที่สาขาและธุรกรรมออนไลน์ ธนาคารจึงมีความเชื่อมั่นว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้ จะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม โดยประชาชนกลุ่มฐานรากสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้มากขึ้น
โดยเบื้องต้นคาดว่ากระบวนการร่วมทุนจะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 1/64 ซึ่งธนาคารออมสินจะใช้ความแข็งแกร่งในด้านของ SAWAD ที่มีอยู่เกือบ 5,000 สาขาทั่วประเทศ และของธนาคารออมสิน 1,060 สาขา เป็นช่องทางการให้บริการ โดยในช่วงปีแรกคาดว่าจะมีประชาชนเข้าในบริกาาร 1 ล้านราย วงเงินการปล่อยสินเชื่อเฉลี่ยไม่เกิน 200,000 บาท/ราย หรือวงเงินราว 2 หมื่นล้านบาท
“ จากการสำรวจในเครดิตบูโรพบว่ามีประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ถึง 3 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ดังนั้นธนาคารจะเจาะคนกลุ่มนี้เพื่อช่วยให้รายย่อยสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ รวมถึงให้อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจาก 24% เหลือไม่เกินต่ำ 18% รวมถึงเปิดให้ประชาชนสามาชนรีไฟฟแนนซ์ได้อีกด้วย เพื่อให้ประชาชนกลุ่มฐานรากสามารถเข้าถึงโอกาสทางการเงินได้มากขึ้น” นายวิทัย กล่าว
นายวิทัย กล่าวเสริมว่า บริษัท เงินสดทันใจ หรือ FM เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งมีฐานลูกค้าถึง 5 แสนราย พอร์ตสินเชื่อประมาณ 8 พันล้านบาท มีกำไรสุทธิสูงถึง 600 ล้านบาท และมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพียง 1-2% เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่า NPLในระบบที่อยู่ที่ 2.6% ซึ่งสามารถผลักดันเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในลำดับต่อไปได้อีกด้วย
ด้าน “นางสาวธิดา แก้วบุตตา” ผู้ถือหุ้น SAWAD เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ นอกจากจะส่งผลดีต่อภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ SAWAD ในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ โดยในเบื้องต้นจะเน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย เนื่องจากมองว่ากลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่มีความต้องการสินเชื่อสูงและมีจำนวนมาก
www.mitihoon.com