ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากการเปิดตัวหนังโฆษณา “พร้อมให้พอ” ไปเมื่อสองเดือนที่ผ่าน ปรากฎว่าได้ผลตอบรับที่ดีมีรายชื่อผู้มุ่งหวังเข้ามาจากทั้งช่องทางโทรศัพท์ และทางออนไลน์เพื่อสอบถามรายละเอียดของผลิตภัณฑ์สูงจากก่อนเริ่มแคมเปญถึงกว่า 250% ถือเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นและให้ความรู้กับตลาดได้ดี ดังนั้น เพื่อเป็นการตอกย้ำแนวคิด “พร้อมให้พอ” และสื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้น จึงได้จัดทำคลิปวีดีโอสั้นเพิ่มขึ้นอีก 4 คลิป เพื่อสื่อสารถึงกลุ่มคนทำงานโดยเฉพาะ มุ่งเน้นให้เห็นถึง 4 ค่าใช้จ่ายหนักเมื่อเวลาเจ็บป่วย อาทิ ค่าห้อง ICU ค่ารักษามะเร็ง ค่าล้างไต ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหลายเหล่านี้จะได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมด้วยการซื้อ “ประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า”
คลิปวีดีโอสั้น 4 คลิป เผยแพร่ผ่านทางช่องทางออนไลน์ ประกอบด้วย
(1) เข้า ICU ที เงินที่คุณมี ต่อชีวิตได้กี่วัน สะท้อนให้เห็นถึงอุบัติเหตุและการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ที่อาจเกิดขึ้นโดยเราไม่รู้ตัว เมื่อเกิดขึ้นแต่ละครั้ง ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวในภาวะฉุกเฉินในห้อง ICU เฉลี่ยอยู่ที่ 60,000 บาทต่อวันใน รพ.รัฐบาล หรือถึง 100,000 บาทต่อวัน ใน รพ. เอกชน ทุกคนจึงควรที่จะต้อง #พร้อมให้พอ ต่อสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ให้เราได้รับการรักษาภาวะฉุกเฉินได้อย่างดีที่สุด https://bit.ly/3n0b93E
(2) พร้อมขายบ้าน ขายรถ มาจ่ายค่ารักษามะเร็ง รึยัง? คนไทยกว่า 110,000 คน เสียชีวิตจากโรคมะเร็งในปี 2561 โดยผู้ป่วยกว่า ร้อยละ 50 จะตรวจพบมะเร็งในระยะที่ 3 และ 4 ทำให้โอกาสการเสียชีวิตสูงมาก ประกันสังคมไม่ได้ครอบคลุมถึงการให้ใช้ยาบางชนิด ซึ่งเป็นยาที่สำคัญต่อการรักษามะเร็งต่างๆ ทำให้สิทธิการรักษามะเร็งขั้นพื้นฐานไม่คลุมค่าใช้จ่ายยารักษามะเร็งในส่วนนี้ ดังนั้น เราจึงต้อง #พร้อมให้พอ เพื่อที่จะได้เข้าสู่เทคโนโลยีการรักษาที่ดีที่สุด เพราะในปัจจุบัน มะเร็ง ไม่เท่ากับ ตาย เสมอไป https://bit.ly/3n0b93E
(3) ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่? ถึงล้างไตได้ตลอดชีวิต คนไทยเผชิญภาวะโรคไตเรื้อรังกว่า 8 ล้านคน ทั่วประเทศ และมีอัตราที่สูงขึ้น ทั้งจากการเป็นโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง และต้องรักษาโดยการล้างไตกว่า 60,000 คน โดยมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยปีละ 200,000 บาท ต่อคนต่อปี … โอกาสของคนไทยที่จะมีภาวะโรคไตเรื้อรังสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น เราจึงต้อง #พร้อมให้พอแบบอัลตร้า https://bit.ly/3n0b93E
(4) ถ้าคุณมีแค่ ประกันกลุ่มฯ กรุณาอย่าเป็น โรคมะเร็ง หัวใจ ไตวาย ประกันสุขภาพแบบกลุ่มของบริษัท เป็นสวัสดิการยอดฮิตของหลายบริษัท ที่ทำให้พนักงาน คลายกังวลเรื่องสุขภาพ จนอาจลืมคิดไปถึง การเจ็บป่วยแบบร้ายแรง หรือเป็นโรคร้ายแรงอย่างมะเร็ง ที่ประกันกลุ่มอาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด และอีกหลายคนคิดว่าไว้ค่อยใกล้เกษียณก่อนค่อยหาประกันสักฉบับ ไว้ดูแลตัวเองยามแก่ แต่หารู้ไม่ว่า ในเวลานั้น สุขภาพของตัวเอง อาจจะไม่ผ่านเกณฑ์ที่จะทำประกันสุขภาพได้ ก็อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน… ถ้ากังวลเรื่องเบี้ยประกันเมื่อต้องการซื้อประกันสุขภาพเพิ่ม ทางเลือกที่จะแบ่งเบาภาระค่าเบี้ยประกันภัยได้ โดยการรับภาระค่าใช้จ่ายบางส่วน (Deductible) #พร้อมให้พอ เพราะไม่รู้ว่าโรคร้ายจะมาเมื่อไหร่ https://bit.ly/3n0b93E
ทั้งนี้ “ประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า” เป็นแบบประกันสุขภาพที่ให้สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้ามากกว่าเดิม โดยลูกค้าจะได้รับความคุ้มครองเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 15 ล้านบาทต่อปี พร้อมให้ความคุ้มครองนานถึงอายุ 90 ปี มีทั้งหมด 4 แผน ประกอบด้วยจำนวนเงินเอาประกันภัย 3 ล้าน 6 ล้าน 10 ล้านและ 15 ล้านบาท สมัครได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน 1 วัน ถึง 70 ปี (ต่อสัญญาได้ถึงอายุ 89 ปี คุ้มครองถึงอายุ 90 ปี)โดยเป็นสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น ไม่เพียงแต่ให้สิทธิการเบิกจ่ายตามจริง เมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล อาทิ ค่าผ่าตัด ค่าเครื่องมือแพทย์ ค่าวางยาสลบ ค่ารถพยาบาล และความคุ้มครองผู้ป่วยนอก เช่น กรณีอุบัติเหตุที่รักษาภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงการผ่าตัดเล็กที่ไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการปลดล็อคค่าล้างไต ค่าเคมีบำบัด ค่ารังสีบำบัด และค่ารักษาพยาบาลกรณีต้องเข้ารับการรักษาในห้องผู้ป่วยวิกฤติ (ICU) รวมทั้งกรณีที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ COVID-19 และไวรัสอื่นๆ โดยจ่ายตามจริงภายใต้วงเงินคุ้มครองตามแผนที่ลูกค้าเลือก”
“เราหวังว่า วีดีโอคลิปสั้น 4 คลิปนี้ จะช่วยตอกย้ำประโยชน์และความจำเป็นของประกันสุขภาพ โดยเฉพาะ “ประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า” คาดว่าจะช่วยดันยอดประกันสุขภาพ ปลดล็อค อัลตร้า ได้กว่า 420 ล้านบาท ภายในหนึ่งปีหลังจากเปิดตัวและเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตพอร์ทธุรกิจประกันสุขภาพของอลิอันซ์ อยุธยา 10% ตามที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้” นางสาวพัชรากล่าว