ในที่สุด OTO ที่ราคาเดินหน้าตั้งแต่เดือนเมษายนจากราคา 2.50 บาท สู่ราคากว่า 4.30 บาท ก็เผยความจริง เมื่อบริษัท SAMART ที่ถือหุ้นใหญ่กว่า 68% ได้ประกาศขายหุ้นให้กับนักลงทุนกลุ่มหนึ่ง มูลค่ากว่า 464 ล้านบาท แถม OTO ยังประกาศปันผลก้อนโตอีก 0.80 บาท ทำให้ SAMART คว้าเงินก้อนโตรวมกว่า 518 ล้านบาท บันทึกในงบกำไรขาดทุนไตรมาส 4
จุดที่ต้องมองต่อคือ กลุ่มผู้ซื้อ3 ราย ได้แก่ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม นายสุทธิพจน์ อริยสุทธิวงศ์ และนายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ บางคนถือหุ้นอยู่ก่อนแล้วบางคนเพิ่งมาใหม่ แต่สายสัมพันธ์ของกลุ่มนี้สืบค้นไม่ยาก สายข่าวบอกว่า มีหลายเสี่ยเกี่ยวข้อง ทั้งเสี่ย อ เสี่ย ว เพราะวนเวียนเข้าไปถือหุ้นหลายๆ ตัวกลุ่มไอซีที ก้ำกึ่งทำนอง Backdoor ซึ่งทำสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง ทำเอาเจ้าของบริษัทหลายที่ต้องนั่งไม่ติด จนกระทั่งเจรจากันมีทางออกกับ OTO ดีลนี้ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก เพราะแม้จะดูเหมือนซื้อกันที่ราคา 2.40 บาท แต่บริษัทจ่ายปันผลโดยเอากำไรสะสม 224 ล้านบาททั้งก้อนออกมาจ่ายคืน เท่ากับว่างานนี้ซื้อกันที่ราคาแค่ 1.60 บาท ได้สิทธิ์ในการครอบครองบริษัทเฉียด 70% จับตาดูการรับงานในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานราชการ เพราะกลุ่มนี้มีบางคนเคยอยู่กระทรวงไอซีที บางคนซ่อนอยู่ข้างหลังเป็นผู้รับงานวางระบบพื้นฐานเตรียมสวมเข้ามาในชื่อใหม่อีกไม่นาน
“ผู้ที่สบายไปแล้วคือ SAMART คว้าเงินก้อนโต ปลดภาระบริษัทที่แทบไม่สร้างผลกำไรในธุรกิจ Call Centerเอาเงินไปปั้นบริษัทตัวเอง รวมทั้งลูก SAV ที่กำลังจะเข้าตลาดในปีหน้า ใครจะไล่ซื้อ OTO จงคิดให้ดีเพราะกลุ่มที่เข้ามาได้ทุนต่ำ สู้ไปคว้า SAMART กลับน่ามองกว่า เพราะราคาตรงนี้ต่ำสุดในรอบ 6 ปี”
www.mitihoon.com